เมื่อเดือนที่ผ่านมา Goldman Sachs ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ออกคำทำนายว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคำทำนายนี้จะเริ่มมีความเป็นจริงใกล้เข้ามาทุกที
ผู้เชี่ยวชาญของ Goldman Sachs อย่าง Jan Hatzius มองว่ามีความเป็นไปได้มากกว่า 50% ที่เฟดจะทำการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้า, ปัจจัยชดเชยภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวที่ใหญ่ขึ้น, ตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง และความกังวลจากความผันผวนรายเดือน
พวกเขาคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันถึง 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเริ่มจากเดือน กันยายน , ตุลาคม และ ธันวาคม โดยจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate) ลงเหลือ 3-3.25% จากการคาดการณ์เดิมที่ 3.5%-3.75%
ความเป็นไปได้ทีเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนยิ่งสูงขึ้นไปอีก เมื่อข้อมูลล่าสุดจาก CME Fed watch เผยให้เห็นว่าปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงถึง 90% ที่เฟดจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังออกมากล่าวว่า เขาได้รับข่าวลือมาว่า เฟด อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับช่วงที่มีข่าวลือเรื่องการตกแต่งตัวเลขการจ้างงานที่ดูดีเกินจริง จนทำให้ตลาดการลงทุนผันผวนหนัก และอาจจะเป็นสัญญาณให้ เฟด ต้องเร่งตัดสินใจในเร็วๆ นี้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่มา : Bloomberg

