เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 สิงหาคม ตามเวลาสหรัฐฯ) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้าในภาคส่วนของชิปคอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ สูงถึง 100% ยกเว้นบริษัทที่มีการผลิตหรือลงทุนในสหรัฐฯ ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมชิปในฝั่งของเอเชีย เช่น จีน,มาเลเซีย,อินโดนิเซีย และ ไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ทว่า ผลกระทบไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะอุตสาหกรรมเหมืองขุดคริปโทฯ ในสหรัฐฯเองก็ได้ผลกระทบตามมาจากการขึ้นภาษีชิปเช่นกัน ซึ่งการประกาศจัดเก็บภาษีได้ทำให้หุ้นของเหมืองขุดคริปโทฯ ยักษ์ใหญ่ เช่น Marathon Digital Holding และ Riot Platforms ที่ได้ชื่อว่ามีการสะสม Bitcoin เป็นลำดับต้นๆของโลก ต่างร่วงดิ่งกันระนาว
นอกเหนือจากยักษ์ใหญ่ทั้งสองแล้ว หุ้นเหมืองขุด CleanSpark Inc. จากรัฐเนวาดา , Hut 8, HIVE Digital หรือ เหมืองขุด Bitdeer Technologies จากสิงคโปร์ก็ร่วงตามมาเช่นกัน
จากภาพข้างต้นจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมเหมืองคริปโตทั่วโลกส่วนใหญ่นั้นมีการกระจุกตัวอยู่ในสหรัฐฯ และ จีน เป็นหลักซึ่งการขึ้นภาษีนำเข้าย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจเหล่านี้
ข้อมูลจากต่างประเทศเปิดเผยว่า การนำเข้าเครื่องขุด ASIC อาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากภาษีสูงถึง 21% และนักลงทุนท้องถิ่นเริ่มวิตกกังวลแล้วว่าภาระอันใหญ่หลวงนี้จะทำให้พวกเขาไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งทาง Luxor Mining pool ได้เตือนว่าวิกฤตครั้งนี้ อาจทำให้เหมืองขุดจำนวนมากย้ายถิ่นฐานออกไปในประเทศที่มีต้นทุนถูกกว่านี้
ความเคลื่อนไหวที่อาจตามมาไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่น ๆ เพราะทาง Luxor คาดว่าหากเกิดขึ้นจริงอาจส่งผลต่อการกระจายอำนาจในเครือข่าย Bitcoin รวมไปถึงสมดุลและเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมขุดเหมืองคริปโทฯ
ทั้งนี้ นโยบายของทรัมป์เปรียบเสมือนดาบสองคม ฝั่งหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำการกระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมในประเทศมากขึ้น แต่อีกฝั่งก็เป็นการผลักไสไล่ส่งให้ต้องออกไปทำธุรกิจยังต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตเองอาจเกิดความผันผวนจากการขึ้นภาษีชิปของทรัมป์ ทำให้นักเทรดต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่าผลกระทบนี้จะสาหัสเพียงใด
ที่มา : Beincrypto