เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ข้อมูลโครงการ Tourist Digipay ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาให้ประเทศไทยตามทันยุคสมัยของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
Tourist Digipay คืออะไร ?
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นการเปิดทดสอบของทางภาครัฐ ภายใต้กรอบ Sandbox นาน 18 เดือน ซึ่งโครงการนี้จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถนำสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทฯ) มาเปลี่ยนเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทยได้ผ่านระบบ e-money ได้ทันที
ขั้นตอนการใช้งาน
1.สมัครบัญชีใหม่
ในส่วนขั้นตอนการใช้งาน Tourist Digipay ขั้นต้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อมาเยือนไทยแล้ว ต้องทำการยืนยันตัวตน (KYC) และเปิดบัญชี “Tourist Wallet” กับผู้ให้บริการ e-money ที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
2.โอนคริปโทฯ และรับเงิน
เมื่อเปิดบัญชีสำเร็จแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องทำการโอนคริปโทฯ เข้าไปยังกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งเปิดจากนั้นให้ทำการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านศูนย์ซื้อขาย ซึ่งทางกระดานเทรดจะทำการแปลงคริปโทฯ ที่ขายออกมาให้อยู่ในรูปของสกุลเงินบาทและส่งคืนเข้ามายังกระเป๋าที่เปิดไว้กับผู้ให้บริการ e-money
3.จับจ่าย
หลังจากที่สินทรัพย์ดิจิทัลถูกแปลงให้เป็นเงินบาท นักท่องเที่ยวสามารถนำเงินที่ได้รับสแกนชำระเงิน ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนกับร้านค้าต่าง ๆ ได้ในทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทั้งร้านค้าขนาดใหญ่ และพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย
ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวใช้เงินไม่หมดสามารถนำเงินที่เหลือในบัญชีแปลงกลับไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลได้เช่นกัน โดยจะมีค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด และไม่สามารถแปลงเงินมากกว่าที่แลกเข้าได้
โครงการนี้ถือเป็นการใช้คริปโทฯในไทยหรือไม่ ?
หากอ้างอิงข้อมูลจาก ก.ล.ต. แล้วโครงการดังกล่าวจะไม่ถือเป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) เพราะร้านค้าจะได้รับชำระค่าสินค้าหรือบริการเป็นสกุลเงินบาทไม่ใช่คริปโทฯ โดยตรง

