หลังจากที่ บิตคอยน์ได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 124,000 ดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาบิตคอยน์ก็เข้าสู่ช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ราคาบิตคอยน์ ร่วงลดลงต่ำกว่า 113,000 ดอลลาร์
แม้ว่าราคาบิตคอยน์จะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยจากจุดต่ำสุดที่ประมาณ 112,387 ดอลลาร์ แต่ด้วยราคาปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ 113,685 ดอลลาร์ ก็ทำให้ความตึงเครียดในหมู่นักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจากดัชนี “Fear & Greed Index” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความรู้สึกโดยรวมของนักลงทุนในตลาด บิตคอยน์และตลาดคริปโตฯ ได้ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดัชนีนี้จะประเมินทัศนคติของนักลงทุนจาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปริมาณการซื้อขาย, ส่วนแบ่งตลาด, ความผันผวน, ความเห็นในโซเชียลมีเดีย และ Google Trends จากนั้นจะแสดงผลออกมาเป็นคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 เพื่อบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังอยู่ในภาวะ กลัว หรือ โลภ
เมื่อค่าของดัชนีนี้สูงกว่า 53 หมายถึง ภาพรวมของนักลงทุนกำลังอยู่ในภาวะ “โลภ” แต่ถ้าค่าต่ำกว่า 47 จะบ่งชี้ถึงความรู้สึก “กลัว” ในตลาด ส่วนค่าที่อยู่ระหว่าง 47 ถึง 53 แสดงว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะ “เป็นกลาง”
โดยเมื่อวานนี้ (วันที่ 20 สิงหาคม) ดัชนี “Fear & Greed Index” มีค่าอยู่ที่ 44 ซึ่งอยู่ในโซน “กลัว” (Fear) และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากช่วงสองเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ในโซน “โลภ” (Greed) มาโดยตลอด จากการปรับตัวลงของราคาบิตคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้ความรู้สึกเชิงบวกของนักลงทุนลดลงและกลับมาสู่ภาวะระมัดระวังอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในวันนี้ (วันที่ 21 สิงหาคม) ดัชนี “Fear & Greed Index” ก็ฟื้นตัว จากความกลัว ขึ้นมาโดยมีค่าอยู่ที่ 50 ซึ่งอยู่ในภาวะเป็นกลาง
ในขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ 113,819 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.12% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap
ที่มา : mitrade