<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผ่านไป 1 ปี หลังการจับกุมผู้ก่อตั้ง Telegram : จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้ครบหนึ่งปีพอดี นับจากวันที่ Pavel Durov CEO ของ Telegram ถูกจับกุมที่สนามบิน Paris-Le Bourget เมื่อ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา คดีนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของบุคคลหนึ่ง แต่มันสะเทือนทั้งวงการคริปโตและสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้คนทั่วโลก

คดีที่ยังไม่มีวันจบ

ตอนนี้ Durov ยังคงติดอยู่ในฝรั่งเศส ไม่ได้ขึ้นศาล แต่ต้องไปพบผู้พิพากษาสืบสวนในทุก ๆ สอง-สามเดือน เพื่อให้เขาตัดสินใจว่าจะนำเขาขึ้นศาลจริงๆ หรือไม่ ข้อหาที่โยนใส่ Durov มีทั้งหมด 12 ข้อหา ตั้งแต่การร่วมมือในการฉ้อโกง ค้ายา การกลั่นแกล้ง จนถึงอาชญากรรมองค์กร ทั้งหมดนี้เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสมองว่า Telegram ไม่ได้ดูแลเนื้อหาในแพลตฟอร์มให้ดีพอ

Durov เองก็แปลกใจมาก เพราะเขาอ้างว่า Telegram มีกลไกความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หลายอย่าง แต่ดูเหมือนจะไม่พอใจรัฐบาลฝรั่งเศส สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือ แฟนของเขา Juli Vavilova แท้งลูกเพราะความเครียดจากคดีนี้

ที่มา: YouTube

ไม่ใช่แค่ฝรั่งเศส แต่ทั้งโลก

สิ่งที่น่ากลัวกว่าคดี Durov คือ การที่รัฐบาลทั่วโลกเริ่มจ้องจับแอปพลิเคชันส่งข้อความที่มีการเข้ารหัส โดยเดนมาร์กมีการเสนอกฎหมาย “Chat Control” ที่บังคับให้ WhatsApp, Signal, Telegram ต้องสแกนทุกข้อความ  ภาพ วิดีโอที่ผู้ใช้ส่ง โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันการล่วงละเมิดเด็ก ซึ่งตอนนี้มีประเทศ EU 19 ใน 27 ประเทศสนับสนุนแล้ว

ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็แบน WhatsApp และ Telegram แล้วเปิดตัว “Max” แอปข้อความที่สร้างโดยรัฐบาล เพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้งานทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ดู โดยมือถือที่วางขายในรัสเซีย จะต้องมีการติดตั้งแอปนี้มาตั้งแต่โรงงาน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป

ทำไมเรื่องนี้สำคัญ

Durov ยืนยันชัดเจนว่า Telegram จะออกจากตลาดใดก็ตามที่บังคับให้ทำลาย encryption หรือสร้าง backdoor โดยเขากล่าวว่า “เราไม่แลกความเป็นส่วนตัวกับส่วนแบ่งการตลาด” ซึ่งต่างจากคู่แข่งหลายราย

นี่คือจุดสำคัญที่คนเล่น crypto ต้องเข้าใจ เมื่อรัฐบาลเริ่มควบคุม messaging apps ที่เข้มงวด มันจะส่งผลต่อ DeFi, การซื้อขาย crypto, และการสื่อสารที่เป็นส่วนตัวทั้งหมด เพราะ Telegram ไม่ได้เป็นแค่แอปแชท แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของวงการ crypto ทั้ง trading signals, community channels, และ OTC trading

ที่มา: Telegram

Durov โต้กลับแล้ว: “หาหลักฐานไม่เจอสักอย่าง”

ล่าสุด Durov ได้ออกโรงตอบโต้อย่างแรง ในโพสต์ Telegram เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกชัดว่า “การสืบสวนอาญา” ต่อเขา ยังคง “หาหลักฐานที่เขาหรือ Telegram ทำผิดไม่เจอ” เขายืนยันว่า วิธีการดูแลเนื้อหาของ Telegram อยู่ในมาตรฐานอุตสาหกรรม และตอบสนองต่อคำขอทางกฎหมายจากฝรั่งเศสทุกครั้ง

ที่มา: Pavel Durov
สิ่งที่น่าสนใจคือ Durov ต้องกลับไปฝรั่งเศสทุก 14 วัน โดยไม่มีกำหนดวันขึ้นศาลที่แน่นอน ซึ่งการจับกุมนี้”ไม่เคยมีมาก่อน” และมันทำลายภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสในฐานะประเทศเสรีอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

ชุมชน Crypto ต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศสอย่างหนัก

Mert Mumtaz CEO ของ Helius ถึงกับตอบกลับประธานาธิบดี Macron ว่า “แล้วทำไมคุณไม่เข้าคุก เพราะไม่สามารถควบคุมอาชญากรรมในฝรั่งเศสได้ 100%?” นี่แสดงให้เห็นว่า วงการ crypto มองคดีนี้เป็นสองมาตรฐาน

Durov ยืนยันอีกครั้งว่า Telegram จะไม่ประนีประนอมเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ไม่ส่งมอบกุญแจเข้ารหัสหรือสร้าง backdoor เข้าแอป และพร้อมออกจากตลาดใดก็ได้แทนที่จะยอมให้มีการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง

อนาคตที่ยังไม่แน่นอน แต่ปักธงชัดเจน

หนึ่งปีผ่านไป สถานการณ์ยังคงเป็นปริศนา แต่จุดยืนของ Durov ชัดเจนมากขึ้น เขาไม่ได้เป็นแค่ CEO ที่ต่อสู้เพื่อบริษัทของตัวเอง แต่เขากำลังต่อสู้ เพื่อหลักการของความเป็นส่วนตัว และการสื่อสารที่เสรี

สำหรับคนในวงการ crypto สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะหาก Durov ยอมแพ้ในคดีนี้ มันจะถือเป็นสัญญาณให้รัฐบาลอื่นๆ ทั่วโลกเห็นว่า พวกเขาสามารถบีบบังคับผู้บริหารในบริษัทเทคโนโลยีได้ตามอำเภอใจ และนั่นหมายถึงการสิ้นสุดของการสื่อสารแบบ peer-to-peer ที่เป็นหัวใจสำคัญของ crypto ecosystem

สงครามนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของ Telegram แต่เป็นเรื่องของอนาคตเสรีภาพดิจิทัลของวงการคริปโต

ที่มา : cointelegraph