<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Forbes ยกย่องแพลตฟอร์มเทรดคริปโตฟีเจอร์เด็ดที่ครอบคลุมทุกความต้องการ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ใครที่เคยคิดว่า Binance จะครองตลาดคริปโตไปตลอดกาล อาจจะต้องคิดใหม่ เมื่อได้รู้จักกับ BYDFi ซึ่งกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาด ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เหนือกว่าในหลาย ๆ ด้าน จนได้รับการจัดอันดับจาก Forbes ให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของ Crypto Exchange ที่ดีที่สุดในโลกปี 2023

BYDFi ซึ่งย่อมาจาก “BUIDL Your Dream Finance” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อที่น่าสนใจ แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาการทำงานที่แตกต่างออกไป คำว่า “BUIDL” เป็นสแลงในวงการคริปโตที่หมายถึงการ “สร้าง” มากกว่าแค่การ “เทรด” โดยมีเป้าหมายในการมอบโซลูชันการเทรดที่เป็นมืออาชีพ สะดวกสบาย และสร้างสรรค์ให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก

เมื่อ BYDFi เปิดตัวในเดือนเมษายน 2020 หลายคนอาจมองข้าม แต่การเติบโตที่รวดเร็ว ทำให้ทุกคนต้องหันมาจับตามอง ภายในเวลาเพียง 3 ปี แพลตฟอร์มนี้สามารถรองรับการเทรดได้มากกว่า 500 คู่เทรด และเพิ่ม Perpetual Contract ที่ให้ leverage สูงถึง 200 เท่า และยังเป็นเว็บเทรดคริปโตค่าธรรมเนียมต่ำ

การเปลี่ยนชื่อจาก BitYard เป็น BYDFi ในปี 2023 ไม่ใช่แค่การรีแบรนด์ธรรมดา แต่เป็นการกำหนดตำแหน่งใหม่ที่ชัดเจนในตลาด การที่แพลตฟอร์มนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนใน CoinMarketCap  และ  CoinGecko รวมถึงการยอมรับจาก Forbes ยิ่งตอกย้ำว่า BYDFi ไม่ใช่แพลตฟอร์มขนาดเล็กที่น่ามองข้าม

สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปี 2024  BYDFi ได้เริ่มเผยแพร่รายงาน Proof of Reserves (POR) และเข้าร่วม South Korea CODE VASP alliance ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในด้านการกำกับดูแล และความโปร่งใส ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความปลอดภัยของแพลตฟอร์มได้มากขึ้น

ฟีเจอร์ของเว็บเทรด BYDFi 

BYDFi ถือเป็นเว็บเทรดคริปโตค่าธรรมเนียมต่ำ ที่มีค่าธรรมเนียมการเทรดแบบ Spot อยู่ที่เพียง 0.1% นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมสำหรับ Perpetual Contract ก็อยู่ที่ 0.02%-0.06%

ซึ่ง BYDFi ให้ Leverage สูงถึง 200 เท่า สำหรับนักเทรดที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการผลกำไรที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย

สำหรับมือใหม่ BYDFi ยังมีฟีเจอร์ Demo Trading ที่ให้เงินจำลอง 50,000 USDT ฟรีสำหรับฝึกเทรด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้ทดลองระบบจริง โดยไม่ต้องใช้เงินจริง 

Copy Trading และ Trading Bot ที่ครบครัน

ฟีเจอร์ Copy Trading ช่วยให้นักลงทุนที่มีทุนน้อยสามารถเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียง 10 ดอลลาร์ โดยมีตัวเลือกระบบจัดการความเสี่ยง ทั้งแบบ Isolated และ Cross Margin ให้เลือกใช้ตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน

นอกจากนี้ยังมี Trading Bot ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Spot Investment, Grid Trading และ Martingale Strategy ช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์อัตโนมัติได้ตามความต้องการ โดย Grid Trading เหมาะสำหรับตลาดที่ราคาเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ ขณะที่ Martingale เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนมาก และสามารถรับความเสี่ยงสูงได้

ระบบรักษาความปลอดภัย

BYDFi ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างจริงจัง เห็นได้จากการที่แพลตฟอร์มถือ MSB License ทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงการเป็นสมาชิกของ South Korea CODE VASP Alliance ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความน่าเชื่อถือในระดับสากล

ด้านความปลอดภัย BYDFi ใช้มาตรฐานระดับเดียวกับ Exchange ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Cold Storage, Multi-signature และ Segregated Account นอกจากนี้ยังใช้บริการ AWS Cloud Services เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพและสามารถรองรับการใช้งานจำนวนมากได้

ที่สำคัญคือ BYDFi มีการเผยแพร่รายงาน Proof of Reserves (POR) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่าเงินทุนของพวกเขามีการสำรองไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นสิ่งที่ Exchange หลายแห่งยังทำไม่ได้หรือเลือกที่จะไม่ทำ

MoonX: ก้าวสู่ยุค CEX + DEX

การเปิดตัว MoonX ในเดือนเมษายน 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ BYDFi ซึ่งเครื่องมือ On-chain Trading นี้ เป็นรายแรกๆ ที่สามารถรวมฟังก์ชันของ CEX (Centralized Exchange) และ DEX (Decentralized Exchange) เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมทั้งรองรับทั้งบล็อกเชนของ Solana และ BNB Chain

นอกจากนี้ การรองรับเหรียญมีมที่กำลังได้รับความนิยมยังช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงโอกาสในตลาดมีมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องไปใช้งาน DEX ที่มีขั้นตอนซับซ้อนหรือต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียม Gas ที่สูงอีกต่อไป

จุดอ่อนที่ต้องระวัง

แม้ว่า BYDFi จะมีจุดแข็งหลายอย่าง แต่ก็มีประเด็นที่นักลงทุนควรพิจารณา อย่างแรกคือในฐานะที่เป็น Exchange ใหม่ สภาพคล่อง (Liquidity) ในบางคู่การเทรดอาจยังน้อย ทำให้ส่วนต่างราคาซื้อขาย (Spread) กว้างกว่า

นอกจากนี้ การที่ประวัติการดำเนินงานยังไม่ยาวนาน อาจทำให้เกิดความกังวลในด้านการรับมือและกู้คืนสถานการณ์หากเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นในอนาคต

สุดท้าย การให้ Leverage สูงถึง 200 เท่า แม้จะเป็นจุดแข็ง แต่ก็เป็นดาบสองคมที่เพิ่มความเสี่ยงอย่างมหาศาล และอาจทำให้นักลงทุนมือใหม่สูญเสียเงินได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ

บทสรุป

BYDFi โดดเด่นในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ต่ำ, ฟีเจอร์ที่ครบครัน รวมถึงได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลกอย่าง Forbes 

ซึ่งการรวมแพลตฟอร์ม CEX และ DEX เข้าด้วยกันผ่านฟีเจอร์ MoonX แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ BYDFi ที่พร้อมปรับตัวตามเทรนด์ของตลาด 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอคือ การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง และการใช้ Leverage ในระดับที่สูงก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น การศึกษาและทำความเข้าใจในแพลตฟอร์มและกลไกการลงทุนอย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งก่อนเริ่มต้นใช้งาน