“ตลาดกำลังจะระเบิด!” อีริค ทรัมป์ ฟันธงลดดอกเบี้ยครั้งนี้ส่งคริปโต ‘พุ่งทะยาน’

อีริค ทรัมป์ (Eric Trump) บุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อของเขาเรียกร้องมาโดยตลอด อาจเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ช่วยกระตุ้นให้ราคาคริปโตพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล

“ผมแค่คิดว่าคุณอาจจะได้เห็นตลาดนี้พุ่งทะยานขึ้นไปเลย” ทรัมป์กล่าวกับ Yahoo Finance พร้อมเสริมว่าด้วยปัจจัยด้านฤดูกาลของคริปโต ทำให้ยังมีโอกาสสำหรับการเติบโตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสที่สี่

‘กระทิงตัวจริง’ กลับใจ-เทน้ำมันเข้ากองไฟ

อีริค ทรัมป์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้คือ แม้แต่ผู้ที่เคยสงสัยในคริปโตมาอย่างยาวนานก็กำลังเปลี่ยนใจมาเป็นผู้สนับสนุน โดยอ้างถึงบริษัทจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคลขนาดใหญ่ เขาได้เล่าถึงเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานในบริษัทดังกล่าว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธ Bitcoin และเลือกที่จะลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาล แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายที่กระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มการลงทุนในคริปโตเสียเอง

“คนเหล่านี้กำลังยอมเปลี่ยนใจ และพวกเขากำลังเปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว และคุณเชื่อได้เลยว่ามันจะยิ่งเป็นการเทน้ำมันเข้ากองไฟให้กับการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้” อีริค ทรัมป์ กล่าว

โดยหลักการแล้ว การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งจะผลักดันให้นักลงทุนต้องมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่า เช่น หุ้น และแน่นอนว่ารวมถึง Bitcoin ด้วย

คริปโต vs ธนาคาร ‘ทองคำดิจิทัล’ ที่ไร้ปัญหา

มุมมองในแง่ดีนี้เกิดขึ้นพร้อมกับบริบทที่ตระกูลทรัมป์ได้เข้ามามีบทบาทในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว อีริค ทรัมป์ ได้ร่วมก่อตั้ง American Bitcoin (ABTC) บริษัทขุดคริปโตซึ่งเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ไปเมื่อต้นเดือนกันยายน ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตมาโดยตลอด รวมถึงการผลักดันกฎหมาย GENIUS Act

ครอบครัวทรัมป์ได้ทดลองใช้คริปโตในรูปแบบต่างๆ ทั้งการรับเงินบริจาคเพื่อการหาเสียง, การเปิดให้ชำระเงินด้วยคริปโตบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social และการเปิดตัวเหรียญมีมของตนเอง

ในมุมมองของ อีริค ทรัมป์ อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลจะยังคงอยู่ต่อไป “ผมมองว่ามันเป็นการต่อสู้ระหว่างคริปโตกับธนาคาร” เขากล่าว และยังได้ยกย่อง Bitcoin ว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” แต่เป็น “ทองคำที่ไม่มีปัญหาทั้งหมด” เหมือนทองคำจริง

ที่มา: finance.yahoo