วันนี้นักลงทุนต้องหวาดผวากันอีกครั้ง เพราะราคาเหรียญคริปโตเบอร์สองของโลกอย่าง Ethereum (ETH) ได้ดิ่งหลุดระดับ $4,000 เป็นครั้งแรกในรอบ 46 วัน ทำเอานักเทรดทั้งสาย Long และสาย HODL ถึงกับปาดเหงื่อ ซึ่งบทความนี้เราจะมาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคาของ ETH ร่วงอย่างรุนแรง
1.มูลค่าการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ ซ้ำเติมแรงเทขาย
ในวันที่ 23 กันยายน ตลาดคริปโตได้เผชิญหน้ากับการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้ เป็นส่วนของ Ethereum ถึง 504 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากคำพูดล่าสุดของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จุดชนวนให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงขึ้น
เมื่อยอด Open Interest ของสัญญาฟิวเจอร์ส ETH อยู่ในระดับสูง การร่วงลงต่ำกว่า $4,200 จึงทำให้นักลงทุนที่เปิดสัญญา Long ไว้ถูกล้างพอร์ตไปตาม ๆ กัน ส่งผลให้อัตรา Funding Rate ติดลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมฝั่งขาลงที่ยังคงดำเนินต่อไป
2.กระแสเงินไหลออกจาก ETF
ปัจจัยที่สองคือ Ethereum ETF มีการไหลออกสุทธิ 140.8 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นการไหลออกของเงินต่อเนื่องเป็นวันที่สอง และกลับทิศจากสัปดาห์ก่อนที่เคยมีเม็ดเงินไหลเข้าสูงถึงเกือบ 300 ล้านดอลลาร์
การไหลออกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า สถาบันบางส่วนอาจเริ่มเทขายทำกำไร หลังจาก ETH พุ่งขึ้นกว่า 65% ในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม กองทุน ETF เหล่านี้ ยังคงถือครองเหรียญอยู่กว่า 6.3 ล้าน ETH คิดเป็นมูลค่า 25,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังเป็นแรงหนุนไม่ให้ราคาปรับตัวลงแรงกว่านี้
3.แนวรับทางเทคนิคเริ่มอ่อนแอ
ด้านมุมมองเชิงเทคนิค กราฟของ Ethereum (ETH) ชี้ให้เห็นว่า การร่วงลงเริ่มขึ้นหลังจากเสียแนวรับที่ $4,100 เมื่อระดับนี้ถูกทำลาย แรงขายจึงเร่งตัวดัน ETH ลงไปทดสอบโซน $4,000 แม้ว่าฝั่งกระทิงจะพยายามป้องกันได้ในช่วงเช้า แต่โมเมนตัมยังคงอ่อนแรง
หากราคา ETH ปิดต่ำกว่า $4,000 อาจเสี่ยงร่วงลงอีกระลอก แต่หากราคาฟื้นกลับมายืนเหนือ $4,100 ได้ จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของตลาดให้กลับมาอีกครั้ง
ในขณะที่รายงาน Ethereum (ETH) มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $4,026 ลดลง 3.45% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ที่มา:coindoo