รายงานจากต่างประเทศเผยว่า บริษัทที่ถือครองคริปโตในสหรัฐฯ กำลังจะได้เฮกันครั้งใหญ่ หลัง กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตรียมปรับกฎหมายภาษีใหม่ ให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล
ไฮไลต์สำคัญของการเปลี่ยนแปลง คือ ภาครัฐจะ ไม่จัดเก็บภาษีจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gains) ภายใต้กฎหมาย Corporate Alternative Minimum Tax (CAMT) ซึ่งกำหนดภาษีขั้นต่ำไว้ที่ 15% สำหรับบริษัทต่าง ๆ โดยกฎหมายฉบับใหม่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ทำให้บริษัทที่ถือ Bitcoin จำนวนมาก เช่น Strategy ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ
ที่ผ่านมา FASB (คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีทางการเงิน) กำหนดให้บริษัทต้องบันทึกมูลค่า Bitcoin ตามราคาตลาด (mark-to-market) หรือก็คือบริษัทต้องเสียภาษีจากกำไรที่ยังไม่ได้ขายออกมา ซึ่งถูกมองว่า “ไม่เป็นธรรม” เพราะะไม่เคยใช้กับสินทรัพย์อื่นมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้นำในวงการคริปโตและนักการเมืองหลายฝ่าย โดยเฉพาะ วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ออกมาเรียกร้องให้แก้ไข เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและผลักดันให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้าน Bitcoin
ปัจจุบัน Strategy ถือครองบิทคอยน์อยู่ราว 640,031 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 บริษัทมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gain) ราว 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกฎหมายภาษีใหม่จะช่วยให้ Strategy ประหยัดต้นทุนไปได้มหาศาล และลดแรงกดดันจากความเสี่ยงการถูกบังคับขายออกจากงบดุลลงทันที
ข่าวดีนี้ยังส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่อราคาหุ้นของ Strategy ที่ถีบตัวพุ่งขึ้นกว่า 5.74% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้านภาษีที่เอื้อต่อคริปโต
ที่มา : Cryptopolitan