<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ศาลสหรัฐฯ อนุมัติข้อตกลง 3AC เรียกค่าเสียหาย Terraform Labs มูลค่า $1.3 พันล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ศาลล้มละลายของสหรัฐฯ เขตเดลาแวร์ ได้มีคำสั่งอนุมัติข้อตกลงการเรียกร้องค่าเสียหายระหว่าง Terraform Labs และ Three Arrows Capital (3AC) ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีประวัติศาสตร์ของวงการคริปโต หลังการล่มสลายลงของระบบนิเวศ Terra/LUNA เมื่อปี 2022

ข้อตกลงนี้มีมูลค่าการเรียกร้องสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 42,000 ล้านบาท) ซึ่ง 3AC ยื่นต่อ Terraform Labs เพื่อชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว คำตัดสินนี้ออกโดยผู้พิพากษา Brendan L. Shannon ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกระบวนการล้มละลาย Chapter 11 ของ Terraform Labs

ทั้งนี้ 3AC ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังจากสิงคโปร์ที่ก่อตั้งโดย Su Zhu และ Kyle Davies เคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดคริปโต ก่อนจะล้มละลายตามคำสั่งศาลในเดือนมิถุนายน 2022 หลังสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากการถือเหรียญ LUNA และ UST ที่มูลค่ากลายเป็นศูนย์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ศาลได้จัดประเภทการสูญเสียของ 3AC ให้เป็น “Crypto Loss Claim” ซึ่งเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายพิเศษสำหรับนักลงทุนที่สูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบของ Terra แทนที่จะถูกนับเป็นหนี้สินทั่วไป การจัดหมวดหมู่นี้มีความสำคัญเพราะทำให้ 3AC อยู่ในกลุ่มเดียวกับนักลงทุนรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการพังของ UST และ LUNA ซึ่งมูลค่ารวมของความเสียหายทั่วตลาดสูงกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์

ตามข้อตกลง 3AC จะต้องถอนคำร้องเดิมออกไปก่อน และสามารถยื่นใหม่ได้หากศาลพบว่ามีส่วนที่ไม่เข้าเกณฑ์ของ “Crypto Loss Claim” เพื่อพิจารณาชดเชยเพิ่มเติมในอนาคต ขณะที่ Todd Snyder ผู้บริหารแผนฟื้นฟูของ Terraform Labs ได้ออกมายืนยันว่าข้อตกลงนี้เป็นก้าวสำคัญในการยุติข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่าย

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ศาลยังได้เปิดช่องให้นักลงทุนทั่วไปสามารถยื่นขอชดเชยจาก Terraform Labs ได้ด้วย โดยต้องยื่นเอกสารทางออนไลน์ภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2025 ครอบคลุมความเสียหายจากสินทรัพย์ที่สร้างโดย Terraform Labs หรือถืออยู่ในระบบนิเวศ Terra ที่สูญค่าหลังเหตุการณ์ “De-peg”

ในแผนฟื้นฟูที่ผ่านการอนุมัติเมื่อเดือนกันยายน 2024 Terraform Labs ได้ตั้ง “Wind-Down Trust” ขึ้นเพื่อรวบรวมและจำหน่ายสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท รวมถึงคริปโตที่เหลืออยู่ ทรัพย์สินทางปัญญา และการลงทุนอื่น ๆ เพื่อนำมาชำระคืนแก่เจ้าหนี้ แม้บริษัทยังคงเผชิญแรงกดดันจากคดีของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) ที่ยังดำเนินอยู่

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากระบวนการชำระบัญชีอาจใช้เวลาหลายปี และเจ้าหนี้อาจไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน เพราะจากประสบการณ์คดีล้มละลายคริปโตในอดีต เจ้าหนี้ส่วนใหญ่มักได้รับคืนเพียง “เศษเสี้ยว” ของสิ่งที่สูญเสียไปเท่านั้น
ที่มา : thestreet