China Renaissance Holdings ธนาคารเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อระดมทุนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายจัดตั้งบริษัทคลังสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Treasury) แห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกา โดยจะเน้นการถือครอง BNB เป็นสินทรัพย์หลัก กลยุทธ์นี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่า สถาบันการเงินระดับโลกกำลังยอมรับ BNB ในฐานะ “สินทรัพย์สำรอง” ที่สำคัญไม่แพ้ Bitcoin
กองทุนสำรอง BNB ที่เตรียมจดทะเบียนในสหรัฐฯ นี้ ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบความสำเร็จของ Michael Saylor และบริษัท Strategy ที่ใช้ดุลบัญชีของบริษัทในการสะสม Bitcoin
การดำเนินการครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้การร่วมมือกับ YZi Labs กองทุนที่เชื่อมโยงกับ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance โดยทั้งสองฝ่ายแสดงความเชื่อมั่นด้วยการร่วมลงทุนฝ่ายละ 100 ล้านดอลลาร์ และจะระดมทุนส่วนที่เหลืออีก 400 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนสถาบันภายนอก เพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันทั่วโลกเข้าถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ BNB
ความเชื่อมั่นนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะ China Renaissance ได้บันทึกสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงแห่งแรกที่ลงทุนใน BNB ราว 100 ล้านดอลลาร์ในดุลบัญชีตั้งแต่เดือนสิงหาคม ส่วน YZi Labs ซึ่งเติบโตจาก Binance Labs ก็ได้เร่งสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
ในขณะที่รายงาน BNB มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $1,274 ลดลง 1.06% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาดของเหรียญอยู่ 1.77 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap