Charles Edwards ผู้ก่อตั้ง Capriole Investments ออกมาเตือนในงาน TOKEN2049 ที่สิงคโปร์ว่า Quantum Computer อาจสามารถทำลายการเข้ารหัสของ Bitcoin ได้เร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด โดยนักพัฒนา Bitcoin มีเวลาจำกัดเพียง 2-8 ปีในการรับมือกับความกังวลด้านควอนตัมที่กำลังจะมาถึง
ปัจจุบัน Bitcoin ใช้ระบบเข้ารหัสแบบ Elliptic Curve Cryptography (ECC) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการปกป้องทรัพย์สินดิจิทัลทั่วโลก แต่ Edwards ชี้ว่า Quantum Computer จะสามารถ “เจาะระบบนี้” ได้ภายใน 2–8 ปีข้างหน้า
Edwards ได้หยิบยกข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในวงการหลายคนเพื่อสนับสนุนคำพูดของเขา อาทิ
- Jameson Lopp นักพัฒนา Bitcoin ประเมินความเสี่ยงไว้ที่ 50% ว่าจะเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอีก 4-9 ปี
- รายงานจาก McKinsey ระบุว่า “Q-day” หรือวันที่ Quantum Computer ทำลายการเข้ารหัสได้สำเร็จ จะเกิดขึ้นภายใน 2–10 ปี สำหรับอัลกอริทึม RSA ซึ่งหมายความว่า Bitcoin อาจเผชิญภัยเร็วกว่านั้น
- ทีมนักวิจัยจาก Microsoft, BP, INQ และ Meta ในปี 2017 ระบุว่าต้องการพลังประมวลผลเพียง 2,300 logical qubits เพื่อเจาะระบบของ Bitcoin และคาดว่าเทคโนโลยีระดับนี้จะเกิดขึ้นจริงประมาณปี 2028-2030
เพื่อรับมือกับปัญหานี้ล่วงหน้า Edwards แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้อัลกอรึธึมที่ทนทานต่อควอนตัมโดยทันที
Edwards กล่าวว่า “Bitcoin จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้อัลกอริทึมที่ทนทานต่อควอนตัม เช่น อัลกอรึทึมที่ใช้ Lattice Cryptography หรือลายเซ็นดิจิทัลที่ใช้แฮช (hash-based signatures) ให้เร็วที่สุด”
นอกจากนี้ Edwards ยังเตือนว่า หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้ใช้งานจะต้องย้ายเงินไปยัง Address ใหม่ พร้อมเตือนว่า หากล้มเหลวอาจนำไปสู่การโจรกรรมครั้งใหญ่ และความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์นี้ จะถูกทำลายลงการแข่งกับเวลาครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ชุมชน Bitcoin ต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้
ที่มา:daitlyhold

