<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ถึงเวลาตื่นจากฝัน 90% ของโปรเจกต์คริปโตยังเป็น “สแกม” วงจรอุบาทว์ ที่ฉุดรั้งนวัตกรรม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดดราม่าระอุขึ้นในวงการคริปโตตามหลังเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งประวัติศาสตร์ โดย Changpeng “CZ” Zhao ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บเทรด Binance ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจาก “CJ” ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Limitless ในเรื่องของประเด็น การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการลิสต์เหรียญ และ ความโปร่งใส

แต่แล้วเรื่องก็ไม่จบแค่นั้น Jesse Pollak จากบล็อกเชน Base ก็โผล่มาปกป้อง CJ ทำให้ จากเดิมที่เป็นเรื่องของคนสองคนสุดท้ายกลับลุกลามกลายเป็นการโต้เถียงระหว่างคอมมูนิตี้ Base และ Binance ที่ต่างออกมาปกป้องระบบนิเวศของตน

เรื่องราวเริ่มบานปลายเมื่อมีชาวเน็ตเริ่มตั้งขอสังเกตว่า มิจฉาชีพนอกจากจะมาในรูปแบบของผู้ออกเหรียญแล้ว ผู้ให้บริการ และอินฟลูเอนเซอร์เองก็มีส่วนรู้เห็นในการฉ้อโกง และการปิดกั้นนวัตกรรมไม่ให้เติบโต เพียงแต่วิธีการอาจแยบยลมากขึ้น แต่สุดท้ายปลาเล็กก็ยังคงตกเป็นเหยื่อให้กับปลาใหญ่

วงจรอุบาทว์ที่ยังคงเกิดขึ้นซ้ำ ๆ 

ปัจจุบันแม้ตลาดคริปโตจะมีการเติบโตขึ้นมากแล้ว แต่ข้อมูลเผยให้เห็นว่าวิธีการเดิม ๆ ยังใช้ได้ผลมาโดยตลอด ย้อนกลับไปในปี 2024 มีโทเคนถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นจำนวนมากถึง 2 ล้านโทเคน แต่กว่า 90% ของเหรียญเหล่านั้นกลับเป็นโปรเจกต์ที่ล้มเหลว มาเร็วไปเร็ว เปิดตัวหรูหราดูดี มีชุมชนหนุนหลัง มีอินฟลูร่วมโปรโมต แต่สุดท้ายกลับพังทลายลงไปง่าย ๆ เพราะไม่ได้ถูกผลักดันด้วยนวัตกรรมที่แท้จริง มีแต่เพียงการสร้างกระแสเท่านั้น โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยคือ เหรียญมีม


เดิมทีเหรียญมีมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ขบถต่อระบบการเงินรูปแบบเดิม ที่ช่วงชิงอิสรภาพและถูกควบคุมโดยเงามืด แต่ทุกวันนี้เหรียญมีมกลับเป็นช่องทางอันดับต้น ๆ ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้คน แต่ก็ยังมีคนตกหลุมพรางเนื่องจากความโลภที่ต้องการกำไรง่าย ๆ ส่วนผู้ที่โปรโมตแทบไม่ต้องเสียอะไรเลยในการเดิมพันเหล่านี้ และเว็บเทรดก็กินค่าธรรมเนียมไปฟรีๆ 

ขณะเดียวกันทางฝั่งของเหรียญที่เติบโตขึ้นมาแล้วก็ยังคงติดอยู่กับที่ แต่นั่นไม่ใช่เป็นเพราะทีมพัฒนาไม่เคลื่อนไหว กลับกันตลาดต่างหากที่กดทุกอย่างเอาไว้ เจ้ามือไม่มีวันได้รับผลกระทบไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง ดังนั้นพวกเขาจึงทำการปั่นตลาดให้เป็นไปตามที่หวัง คอยสูบเลือดสูบเนื้อ กิน Stop-loss และทำให้รายย่อยต้องถูกบังคับขายผ่าน liquidation ส่งผลทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว

สุดท้ายนี้ แม้ว่าหลายคนจะบอกว่า “วัฏจักรนี้จะไม่เหมือนเดิม” จริงอยู่ที่ว่ารอบปี 2024-2025 นั้นมีนักลงทุนสถาบันทุ่มเงินเข้ามาในตลาด แต่สุดท้ายแล้วบางอย่างในวงการนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม มีเพียงแต่ความคิดของผู้คนเท่านั้นที่คิดว่ามันจะต้องเปลี่ยนไป