<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

10x Research เตือน! ฟองสบู่บริษัทคลัง Bitcoin ใกล้จะแตก หลังนักลงทุนขาดทุนไปกว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดจาก 10x Research ชี้ว่า “ฟองสบู่ Bitcoin Treasury” กำลังใกล้แตก หลังนักลงทุนรายย่อยสูญเงินไปแล้วกว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์จากการไล่ซื้อหุ้นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin เช่น MicroStrategy และ Metaplanet

ช่วงปี 2024 ถึงต้นปี 2025 นักลงทุนจำนวนมากมองว่าการซื้อหุ้นบริษัทเหล่านี้เป็น “ทางลัด” ในการลงทุนใน Bitcoin ที่ปลอดภัยกว่า จึงยอมจ่ายราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิถึง 3–4 เท่า ทว่าเมื่อความตื่นเต้นเริ่มลดลง ฟองสบู่ที่พองตัวก็เริ่มแตกร้าว

Premium สูงลิ่วกำลังพังลง

ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีน ทำให้ตลาด Bitcoin เริ่มซบเซา ค่า Premium จาก 3–4 เท่าของ NAV ร่วงลงเหลือเพียง 1.0–1.4 เท่า ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปหลายพันล้านดอลลาร์ แม้ราคา Bitcoin จะยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม

10x Research ประเมินว่ามูลค่าของหุ้นเหล่านี้สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงไปแล้วราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความร้อนแรงของตลาดในช่วงก่อนหน้านี้

MicroStrategy และ Metaplanet ก็ไม่รอด

Metaplanet ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็น “MicroStrategy แห่งเอเชีย” หยุดซื้อ Bitcoin หลังราคาหุ้นร่วงกว่า 47% ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ มูลค่ากิจการของบริษัทลดลงต่ำกว่ามูลค่า Bitcoin ที่ถือครอง และสูญมูลค่ากว่า 4.9 พันล้านดอลลาร์จากจุดสูงสุด

ขณะที่ MicroStrategy ก็เผชิญชะตาคล้ายกัน Premium ของหุ้นลดลงจาก 4 เท่าเหลือ 1.4 เท่าของ NAV สะท้อนแรงเทขายและความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักลงทุน

บริษัทคลัง Bitcoin กำลังถึงทางตัน

10x Research ระบุว่า กลยุทธ์ของบริษัทคลังเหล่านี้กำลังถึงจุดที่ต้องพิสูจน์มูลค่าที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงการถือ Bitcoin อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องสร้างรายได้จริงผ่านการให้กู้ยืม การดูแลสินทรัพย์ หรือ Arbitrage

นักลงทุนที่เข้าซื้อในช่วง Premium สูงสุดกำลังขาดทุนเฉลี่ยราว 67% เมื่อเทียบกับการถือ Bitcoin โดยตรง หลายบริษัทจึงเริ่มหันไปลงทุนใน Bitcoin ETF หรือการถือสินทรัพย์โดยตรง เพื่อความโปร่งใสและลดต้นทุนพรีเมียม

3 หมื่นล้านดอลลาร์อาจหาย

10x Research คาดว่า หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ค่าพรีเมียมของบริษัทคลัง Bitcoin อาจร่วงลงอีก ส่งผลให้มูลค่าหายไปถึง 2.5 ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี

บริษัทจำเป็นต้องสร้างผลตอบแทนให้สูงถึง 15 ถึง 20% ไม่เช่นนั้นอาจเผชิญความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของตลาด

Source: 10x Research