ตลาด Bitcoin ในเดือนตุลาคมปี ได้สร้างเรื่องราวที่น่าแปลก โดยเริ่มต้นด้วยความหวังจากปรากฏการณ์ตามฤดูกาลที่เรียกว่า “Uptober” ซึ่งเป็นเดือนที่ Bitcoin มักจะทำผลงานได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และในช่วงต้นเดือนราคาได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เป็นบวกตามความคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม พอช่วงกลางเดือน ตลาดคริปโตฯ ได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน นั่นคือ การล้างพอร์ต (Liquidation) ครั้งประวัติศาสตร์ ที่รุนแรงจนทำให้นักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงจำนวนมากต้องสูญเสียเงินทุนมหาศาล เหตุการณ์นี้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักเทรดที่มีต่อ Uptober สั่นคลอนอย่างหนัก และตลาดเข้าสู่โหมดความหวาดกลัวในทันที
ทว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือน ตลาดได้แสดงสัญญาณของการฟื้นตัวและความพยายามในการกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับมา โดยเห็นได้ชัดจากความเคลื่อนไหวของ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) ซึ่งสามารถกลับขึ้นมาอยู่ในระดับ “เป็นกลาง (Neutral)” อีกครั้ง บ่งชี้ว่าอารมณ์ของนักลงทุนได้ผ่อนคลายจากความกลัวสุดขีดที่เกิดขึ้นหลังการเทขาย และตลาดกำลังจะปิดเดือนด้วยทิศทางที่ดีขึ้นอย่างระมัดระวัง แม้จะผ่านวิกฤตครั้งใหญ่มาก็ตาม
อ้างอิงตามข้อมูลล่าสุดในวันนี้ (27 ตุลาคม) พบว่าดัชนี Crypto Fear & Greed Index ได้ฟื้นกลับขึ้นมาในจุดสถานะ “เป็นกลาง” ได้สำเร็จ โดยทำคะแนนไปแตะระดับ 51 แต้ม ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่นักลงทุนอยากได้ยินหลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้าเคยลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 22 มาแล้ว
การที่ Bitcoin ฟื้นกลับมายังสถานะเป็นกลาง เป็นสัญญาณชั้นดีที่บ่งบอกว่านักลงทุนกำลังกลับมาเชื่อมั่นใน Bitcoin อีกครั้ง หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักมาโดยตลอด
ข้อมูลจาก Glassnode ยังเสริมอีกว่า ปัจจุบันแรงขายของ Bitcoin ได้ถูกลดทอนลงไปเป็นอย่างมาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตลาดในขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปิดฟิวเจอร์สกันอย่างบ้างคลั่งเหมือนช่วงก่อนหน้า ทำให้มุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาดเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่ผ่อนคลายลงเช่นกัน
ดัชนีความกลัวและความโลภคืออะไร ?
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ ดัชนีความกลัวและความโลภ หรือ Crypto fear and greed index คือ ดัชนีที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตทั้ง 6 ด้าน และมีคะแนนรวมอยู่ที่ 100 คะแนน ประกอบไปด้วย ความผันผวน 25% , โมเมนตัมของตลาด , วอลุ่มการเทรด 25% , โซเชียลมีเดีย 15% , ผลสำรวจ 15% , อัตรา Bitcoin dominance 10% และ เทรนด์ของตลาด 10%