คริส ลาร์เซน (Chris Larsen) ทะยานขึ้นติดอันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 200 อันดับแรกของโลก หลังจาก Ripple บริษัทที่เขาร่วมก่อตั้ง กลับมาผงาดอีกครั้งในวงการคริปโต
ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ และวอลล์สตรีทเริ่มเปลี่ยนท่าทีเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะเมื่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ (SEC) ของสหรัฐฯ ยุติคดีความกับ Ripple ที่ลากยาวมานานกว่า 5 ปีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้บริษัทกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
และจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนจาก Fortress Investment Group และ Citadel Securities ได้เข้าลงทุนใน Ripple มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัท Ripple ถูกประเมินมูลค่าใหม่สูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg
ขณะเดียวกัน ราคาของโทเคน XRP ก็เพิ่มขึ้น 9% ในปีนี้ ดันให้ทรัพย์สินรวมของ Chris Larsen พุ่งแตะ 15,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 495,796 ล้านบาท) และพาเขาขึ้นแท่นมหาเศรษฐีระดับโลกในทันที
พอร์ตความมั่งคั่งของ Larsen มาจากการถือหุ้นใน Ripple 18% และการถือครอง XRP จำนวน 2.7 พันล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 6,300 ล้านดอลลาร์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนอื่น ๆ อีกกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์ โดย Bloomberg ยืนยันตัวเลขเหล่านี้จากแหล่งข้อมูลโดยตรงของ Larsen เอง
แต่เส้นทางของชายผู้นี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ Larsen เติบโตที่ซานฟรานซิสโก เริ่มเรียนด้านการบิน ก่อนเปลี่ยนมาศึกษาบัญชีและบริหารธุรกิจ และต่อ MBA ที่ Stanford
Larsen เริ่มต้นอาชีพที่ Chevron ก่อนจะหันเข้าสู่โลกสตาร์ตอัปในยุค 90s โดยร่วมก่อตั้ง E-Loan แพลตฟอร์มสินเชื่อออนไลน์รายแรกของโลกที่เปิดเผยเครดิตลูกค้าแบบเรียลไทม์ และขายกิจการให้ Popular Inc. ได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ในปี 2005 จากนั้นจึงต่อยอดด้วยการก่อตั้ง Prosper Marketplace (แพลตฟอร์มกู้ยืมแบบ P2P) และสุดท้ายในปี 2012 เขาได้ร่วมก่อตั้ง OpenCoin ซึ่งต่อมากลายเป็น Ripple ที่เรารู้จักในวันนี้
ปัจจุบัน Chris Larsen ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Ripple และยังคงเป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันการใช้ XRP เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินข้ามพรมแดน
ขณะเดียวกัน เขายังอุทิศตนให้กับงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกับภรรยา Lyna Lam ภายใต้มูลนิธิ A Khmer Buddhist Foundation เพื่อช่วยเหลือชุมชนกัมพูชา สนับสนุนโครงการฟื้นฟูเมืองซานฟรานซิสโก บริจาคเงินกว่า 9.4 ล้านดอลลาร์ให้ตำรวจท้องถิ่น และร่วมสร้างวัดใหม่ในเมืองซานโฮเซ
ที่มา : cryptopolitan