<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

พิษเงินเฟ้อเล่นงาน! สหรัฐฯ เลิกผลิตเหรียญ “เพนนี” ปิดฉาก 232 ปี หลังต้นทุนแพงกว่าเงินจริง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวานนี้ (12 พฤษจิกายน ตามเวลาสหรัฐฯ) เป็นอีกหนึ่งวันที่จะต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์โลก หลังโรงกษาปณ์ฟิลาเดลเฟียจะยุติการผลิตเหรียญ 1 เซนต์ (เพนนี) ชุดสุดท้าย เป็นการปิดหน้าประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 232 ปี

สาเหตุหลักที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจเลิกผลิตเหรียญ หลักๆแล้วเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตที่แซงหน้ามูลค่าของเงิน ซึ่งตัวของทรัมป์มองว่าเป็นการผลาญงบประมาณโดยใช่เหตุกว่า $56 ล้านดอลลาร์ต่อปี

รายงานจากต่างประเทศเปิดเผยว่า หลังการผลิตสิ้นสุดลง ตัวเหรียญจะยังสามารถนำมาใช้จ่ายได้ตามปกติและจะยังหมุนเวียนอยู่ในระบบต่อไป ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บรรดาร้านค้าจะเริ่มปรับมูลค่าสินค้าให้ใช้เหรียญเศษสตางค์ให้น้อยลง  

นอกจากนี้เหรียญ นิกเกิล ที่มีมูลค่าเท่ากับ 5 เซนต์จะถูกพิจารณาให้ยุติการผลิตเช่นกันในอนาคต เนื่องจากต้นทุนที่ใช้นั้นสูงถึง 14 เซนต์  

สหรัฐฯไม่ใช่ประเทศเดียวที่เริ่มมีการยกเลิกการผลิตเหรียญที่มีมูลค่าต่ำ ยกตัวอย่างเช่นแคนาดา , ออสเตรเลีย , นิวซีแลนด์ , สหราชอาณาจักร เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การเข้ามาของระบบการโอนเงินแบบดิจิทัลได้เป็นส่วนสำคัญในการทำให้เงินเหรียญและเงินกระดาษ เริ่มหมดความจำเป็น เพราะนอกจากจะโอนได้เร็วแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องแบกใส่กระเป๋าให้หนักอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน ภาวะเงินเฟ้อหรือเงินเสื่อมค่า ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความจำเป็นในการใช้เหรียญถูกลดทอนลงอย่างหนัก เนื่องจากราคาของสินค้าและบริการต่างปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

ปัจจุบัน โลกกำลังจะเดินหน้าเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลอย่างเต็มตัว เห็นได้จากการรีบเร่งของรัฐบาลต่าง ๆ ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้งาน Stablecoin หรือ CBDC ทำให้เป็นไปได้ว่าเงินกระดาษกำลังจะค่อย ๆ เลือนหายไปในอนาคตข้างหน้า


ที่มา : BBC