Saudi Aramco บริษัทเคมีภัณฑ์และพลังงานภายใต้การควบคุมของรัฐบาลได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้ทำการติดตั้ง “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” เครื่องแรกภายในราชอาณาจักรสำเร็จแล้ว
Aramco กล่าวว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 200 คิวบิต ซึ่งสร้างโดย Pasqal บริษัทคอมพิวเตอร์ควอนตัมจากประเทศฝรั่งเศส ได้ถูกติดตั้งที่ศูนย์ข้อมูลเมืองดาห์รัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ตัวดังกล่าว ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น การสร้างแบบจำลองพลังงาน และการวิจัยวัสดุ
Loïc Henriet ซีอีโอ ของ Pasqal เปิดเผยว่าคอมพิวเตอร์ที่ทำการส่งมอบให้นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำมา เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของควอนตัมคอมพิวเตอร์ในตะวันออกกลางเลยก็ว่าได้
ความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบีย เกิดขึ้นตามหลังมหาอำนาจของโลกอย่าง สหรัฐฯ , จีน , อียู , สหราชอาณาจักร , อินเดีย และ แคนาดา ที่มีการลงทุนสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ในประเทศเพื่อพัฒนงานวิจัย และโครงสร้างภายในประเทศ
คอมพิวเตอร์รุ่นนี้จะเจาะ Bitcoin ได้ไหม?
อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยของ Ian MacCormack ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 200 คิวบิต นั้นยังถือว่าเป็น “เครื่องเล็ก” และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ยังคงจำกัด แต่ก็ยังสามารถทำการทดลองต่างๆ ที่น่าสนใจได้
แต่การที่จะเจาะการเข้ารหัสแบบ Shor’s Algorithm อาจยังไม่สามารถทำได้ แม้ว่าจะมีการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ทำให้การเจาะรหัสยังคงเป็นเรื่องในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า การที่มีการทุ่มเวลาและเงินทุนจำนวนมากไปกับควอนตัมในปัจจุบัน ได้ส่งผลทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างก้าวกระโดดและรวดเร็วเกินไป จนทำให้ประเด็นเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเริ่มไม่อาจมองข้ามได้
ดังนั้นตอนนี้คำถามจึงไม่ใช่ว่าควอนตัมจะเจาะได้หรือไม่เพราะมันเจาะได้แน่ๆ และไม่ใช่เป็นการคาดเดาทางทฤษฏีอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นเมื่อไรต่างหากและที่แย่เลยก็คือ เมื่อควอนตัมเสร็จสมบูรณ์ มันจะกลายเป็นเทคโนโลยีตัวแรกที่จะสามารถนำมาแปลงเป็นอาวุธทางดิจิทัล
ปัจจุบันนักวิจัยจาก Caltech สามารถสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ขนาด 6,000 คิวบิต ได้สำเร็จแล้ว แต่เครื่องจักรดังกล่าวยังคงถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในงานวิจัย มากกว่าการนำมันมาโจมตี แต่ความกังวลก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Q-Day
Q-Day คือวันที่ควอนตัมจะสามารถค้นหา private key จาก public key และปลอมลายเซ็นดิจิทัลได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นวันที่ Bitcoin สูญสิ้นทุกสิ่งอย่าง รวมไปถึงการเข้ารหัสรูปแบบอื่น ซึ่งจะสามารถทำให้เศรษฐกิจโลกล่มจมได้อย่างง่ายดาย
สุดท้ายนี้ แม้ควอนตัมจะเป็นภัยคุกคามที่ดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงนั้นเทคโนโลยีควอนตัมยังคงต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนา ดังนั้นการเข้ารหัสสมัยใหม่จะยังคงปลอดภัยไปอีกนานหลายปี
ที่มา : Decrypt
