นับตั้งแต่ที่ Bitcoin ร่วงลงไปหลุด $80,000 ได้ส่งผลทำให้นักเทรดจำนวนไม่น้อยเริ่มเกิดอาการ “นอนไม่พอ-นอนน้อย” จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักเทรดรายย่อย
รายงานจาก CEX.io. เปิดเผยว่านักเทรดจำนวนกว่า 70% ได้ทำการกล่าวโทษการนอนไม่พอว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การตัดสินใจเทรดเกิดความผิดพลาดในช่วงเวลาผันผวนจนทำให้สถานการณ์และพอร์ตโฟลิโอยิ่งย่ำแย่
พวกเขายังเผยว่ากว่า 68% ของผู้ตอบแบบสำรวจต้องเปิดกราฟดูก่อนนอนเสมอ โดยมีเพียงแค่ 8% เท่านั้นที่ไม่คิดจะมามอง สิ่งนี้หมายความตลาดอันผันผวนได้ส่งผลโดยตรงต่อกิจวัตรประจำวันของนักเทรด
ที่น่าตกใจเลยก็คือ กว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่างเผยว่า พวกเขาถ่างตาอยู่ต่อจนถึงตี 2 ก่อนที่จะเข้านอนเพราะตลาดผันผวน ขณะที่อีกกว่า 33% ยิ่งแย่ อดนอนยาวไปจนถึงตี 4 ไปจนถึงขั้นไม่นอนเลยก็มี
ทั้งนี้ สาเหตุที่นักเทรดจำนวนมากเลือกที่จะอดหลับอดนอน ไม่ได้เกิดจากความกลัวที่จะพอร์ตแตกเป็นหลัก กลับกันสิ่งทำให้ทุกคนต้องทุกข์ทรมานดันเป็นการ FOMO เพียงเพื่อที่จะหาจุดเข้าที่ดีที่สุด คิดเป็น 59% ของกลุ่มตัวอย่าง
งานวิจัยยังเผยอีกว่าช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตผันผวนที่สุดมักจะเป็นช่วงเวลาที่คนปกติ “นอน”
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นจริงสูงสุด กระจุกตัวในช่วงระหว่าง 18:00 น. ถึง 06:00 น. ตามเวลา UTC ซึ่งช่วงเวลานี้ตรงกับช่วงที่รายการคำสั่งซื้อขายของสถาบันลดน้อยลง เนื่องจากผู้ให้บริการสภาพคล่องในสหรัฐฯ ได้หยุดการทำงานไปแล้ว
ดังนั้น ด้วยความลึกของตลาด ที่ลดลงในเวลาของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การไหลของคำสั่งซื้อขายที่ค่อนข้างเล็กจึงสามารถกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงกว่าปกติได้ ส่วน นักเทรดรายย่อยที่อยู่ในเขตเวลา EMEA (ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) ช่วงความผันผวนนี้ทับซ้อนโดยตรงกับช่วงเวลาพักผ่อน ทำให้พวกเขาต้องเลือกระหว่างการนอนหลับกับการบริหารความเสี่ยงอย่างกระตือรือร้น
อย่างไรก็ตาม รายงานทิ้งท้ายว่าในช่วงตลาดขาขึ้น นักเทรดมีคุณภาพการนอนที่ดีกว่า คิดเป็นอัตราส่วนที่ 64% แต่ในช่วงตลาดขาลงมีเพียง 10% เท่านั้นที่ยังสามารถนอนได้เป็นปกติ
ที่มา : Cryptoslate