<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เจาะลึกจิตวิทยา $100,000: ทำไมตัวเลขนี้ถึงเป็นจุดที่อาจสำคัญกว่าที่คุณคิด?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ราคา Bitcoin (BTC) กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวเหนือระดับ $90,000 และเริ่มขยับเข้าใกล้ระดับราคาสำคัญอย่าง $100,000 เข้าไปทุกที สิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองไม่ได้มีเพียงแค่แนวต้านทางเทคนิคบนกราฟ RSI หรือ MACD อีกต่อไป แต่คือ “กำแพงทางจิตวิทยา” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สินทรัพย์ดิจิทัล

ทุกท่านสงสัยกันไหมว่า ทำไมตัวเลขกลมๆ อย่าง $100,000 ถึงมีอิทธิพลเหนือนักลงทุนทั่วโลก? และทำไมมันถึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญกว่าข้อมูลกราฟใดๆ ที่เคยมีมา 

กับดักจิตวิทยาของตัวเลขกลม ๆ 

ในหลักจิตวิทยาการเงิน มนุษย์มักมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับตัวเลขที่ลงท้ายด้วยศูนย์ หรือที่เรียกว่า “Round Number Bias” สมองของมนุษย์ถูกโปรแกรมให้ประมวลผลตัวเลขกลมๆ ได้ง่ายกว่าตัวเลขเศษทศนิยม เหมือนกับเวลาเราเห็นสินค้ามูลค่า 99 บาท กับ 100 บาท

Bitcoin เองก็เช่นกัน ความรู้สึกระหว่าง Bitcoin ราคา $99,900 กับ $100,000 นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเชิงความรู้สึก ทั้งที่มูลค่าห่างกันเพียง $100

ปรากฏการณ์นี้ทำให้ระดับ $100,000 กลายเป็นแนวต้านทางจิตวิทยาที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะนักลงทุนจำนวนมาก ทั้งรายย่อยและวาฬ มักจะตั้งเป้าหมายการทำกำไรไว้ที่ตัวเลขสวยๆ นี้โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้เกิดแรงขายมหาศาลเมื่อราคาแตะถึงจุดดังกล่าว

ขณะเดียวกันในช่วงที่ Bitcoin ยืนเหนือแสน ระดับราคา $100,000 ก็เป็นแนวรับสำคัญเช่นเดียวกันที่ไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากให้ราคาทะลุเลขดังกล่าว

สัญญาณเรียกแขกจากสื่อกระแสหลักและการ FOMO ของรายย่อย

ความสำคัญของตัวเลข $100,000 ยังอยู่ที่ผลกระทบต่อสื่อกระแสหลัก เมื่อราคา Bitcoin ทะลุ $100,000 จะเกิดพาดหัวข่าวใหญ่ไปทั่วโลกในทำนองว่า “Bitcoin พุ่งทะลุเลข 6 หลักอีกครั้ง” หรือ “Bitcoin พุ่งแตะ 3 ล้านบาทอย่างรุนแรง”

พาดหัวข่าวเหล่านี้คือ เชื้อเพลิงชั้นดีที่จะกระตุ้นความ FOMO ของนักลงทุนรายย่อยหน้าใหม่ที่อาจยังไม่ได้เข้าสู่ตลาดในช่วง $80,000 – $90,000 ให้กระโจนเข้ามาในตลาด ส่งผลให้เกิดภาวะ “Parabolic Run” หรือราคาพุ่งขึ้นในแนวดิ่งอย่างรุนแรง หลังจากทะลุแนวต้านนี้ไปได้

แรงดึงดูดจากตลาดออปชัน

อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่เข้ามาชี้วัดทิศทางตลาดในวันนี้ (28 พ.ย.) คือ เหตุการณ์ครบกำหนดสัญญาออปชันรายเดือน ซึ่งมีมูลค่าสัญญาคงค้างสูงเป็นพิเศษ 

โดยข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นอัตราส่วน Put/Call Ratio ของ Bitcoin อยู่ที่ระดับ 0.58 ตัวเลขนี้สะท้อนชัดเจนว่านักลงทุนส่วนใหญ่วางเดิมพันในฝั่ง “ขาขึ้น”  

แต่สิ่งที่น่าจับตายิ่งกว่าคือดัชนี “Max Pain Price” หรือจุดเจ็บปวดสูงสุดของรอบนี้ที่ไปปักหมุดอยู่ที่ระดับ $100,000 พอดิพอดี ตามทฤษฎีผลประโยชน์ของตลาดอนุพันธ์ ที่ราคามักจะมีพฤติกรรมเอนเอียง เข้าหาจุด Max Pain ในวันหมดอายุสัญญา เพื่อให้ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Makers) ได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่สัญญาของนักลงทุนรายย่อยหมดอายุโดยไร้มูลค่า 

ดังนั้น การที่เป้าหมายราคาไปบรรจบที่ $100,000 จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของแรงดึงดูดมหาศาลทางกลไกตลาดที่กำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง

จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเลข $100,000 คือจุดวัดใจครั้งประวัติศาสตร์ที่รวบรวมมวลอารมณ์ของตลาดไว้มากที่สุด บทเรียนจากอดีตย้ำเตือนเราเสมอว่า การก้าวข้ามกำแพงจิตวิทยาไม่เคยเป็นเรื่องง่ายและมักตามมาด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาลเพื่อคัดกรอง ‘นักลงทุนตัวจริง’ ให้อยู่ต่อ

หากครั้งนี้ Bitcoin สามารถปักธงเหนือระดับดังกล่าว และเปลี่ยนแนวต้านให้กลายเป็นฐานที่มั่นใหม่ได้สำเร็จ นี่อาจไม่ใช่แค่การทำ New High ธรรมดา แต่เป็นสัญญาณแห่งรุ่งอรุณของ Supercycle ที่จะพาเราไปไกลเกินกว่าที่ทฤษฎีใดๆ เคยคาดการณ์เอาไว้