 หลุด $400 ? หลังออกมาเตือนว่า อย่าใช้ระบบ “Token Voting”){kind=link}
Vitalik Buterin ศาสดาแห่ง Ethereum ออกมาเบรกไอเดียการใช้ระบบ “Token Voting” ของชุมชน Zcash แบบหัวทิ่ม โดยเตือนว่าขืนทำไป Zcash อาจสูญเสียจุดยืนสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) จนกู่ไม่กลับ ส่งผลให้ราคาเหรียญ ZEC ผันผวนหนัก และหลุดระดับราคาต่ำกว่า $400
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา Vitalik โพสต์บน X ว่า กลไกการโหวตที่อิงตามน้ำหนักการถือครองเหรียญนั้น (Token Voting) มีความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่จะบีบให้ทิศทางของโปรเจกต์มุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงจูงใจด้านราคาในระยะสั้น จนอาจละเลยเป้าหมายหลักในการปกป้องสิทธิเสรีภาพและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ Vitalik ยังชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนสำคัญที่มักเกิดขึ้นในระบบดังกล่าว คือการที่อำนาจการตัดสินใจจะไปกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือ “เจ้ามือ” ซึ่งเอื้อให้เกิดการสมรู้ร่วมคิดหรือการซื้อเสียงแบบลับๆ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยมักขาดแรงจูงใจในการตรวจสอบและลงคะแนน ทำให้เขามองว่าระบบนี้อาจเลวร้ายยิ่งกว่าโครงสร้างการบริหารงานที่ Zcash ใช้อยู่ในปัจจุบันเสียอีก
ประเด็นดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางข้อถกเถียงอย่างหนักภายในชุมชน Zcash ที่กำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือก Zcash Community Grants หรือ “คณะกรรมการพิจารณาทุนสนับสนุน” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศ โดยฝ่ายที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงมองว่าระบบคณะกรรมการแบบดั้งเดิมนั้นล้าสมัย ขาดความโปร่งใส และไม่มีกลไกการรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ด้าน Mert Mumtaz ซีอีโอของ Helius ได้แสดงความเห็นแย้งว่า กลไกตลาดที่เปิดให้มีการโหวตนั้นมีระบบตรวจสอบ และแก้ไขตัวเองที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะหากการตัดสินใจผิดพลาด ราคาเหรียญที่ปรับตัวลงจะเป็นบทลงโทษโดยธรรมชาติ ต่างจากระบบคณะกรรมการที่เปรียบเสมือนผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องใหญ่โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใดๆ จากความผิดพลาดนั้น
ความขัดแย้งด้าน Governance ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลจากตลาดคริปโตชี้ให้เห็นว่า ราคาของ Zcash (ZEC) ที่เคยปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 1,000% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา จนทำจุดสูงสุดที่ระดับ $750 เริ่มส่งสัญญาณการปรับฐานอย่างรุนแรงให้เห็นแล้ว
ข้อมูลล่าสุดจาก TradingView เผยว่า ราคา Zcash (ZEC) มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $375 คิดเป็นการร่วงลงหนักถึง 50% ภายในเดือนเดียว
ที่มา:beincrypto