เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 68 ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนระดับตำนานของไทย ได้กางตัวเลขวัดพลังระหว่าง “ทองคำ” และ “ บิทคอยน์” ให้เห็นกันชัดๆ ว่าทำไมช่วง 2-3 ปีมานี้ นักลงทุนรุ่นใหม่ถึงแห่กันเข้ามาในสองตลาดนี้ และตอบคำถามที่คนสงสัยที่สุดว่า ในมุมมองส่วนตัว นาทีนี้ควรเอาเงินไปลงที่ไหนกันแน่
เริ่มกันที่ “ทองคำ” ที่ปีนี้ท็อปฟอร์มสุดๆ สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีสูงถึง 59% แต่ความน่าทึ่งจริงๆ อยู่ที่เกมยาวระดับ 20 ปี ที่ทองคำทำผลงานได้กว่า 739% หรือเท่ากับ 11.2% ต่อปีแบบทบต้น ซึ่งเป็นสถิติที่ดีเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์และชนะตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่แบบขาดลอย
ตัดภาพมาที่ “บิทคอยน์” แม้ปีล่าสุดจะสะดุดขาตัวเองติดลบไป 5-6% แต่หากดูกรอบระยะกลาง 5 ปี บิทคอยน์คือ ผู้ชนะที่แท้จริงด้วยผลตอบแทนมหาศาลกว่า 406% หรือเท่ากับ 38.3% ต่อปีแบบทบต้น ทิ้งห่างแม้กระทั่งดัชนี Nasdaq ที่ว่าเป็นสุดยอดหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.6% ต่อปีแบบทบต้น
ดร.นิเวศน์ ชี้ให้เห็นภาพว่า หากมองเกมระยะกลาง บิทคอยน์ถือเป็นสุดยอดการลงทุนในช่วงเวลา 5 ปี แต่ถ้ามองเกมยาวขึ้น ทองคำคือ สุดยอดการลงทุนในช่วงเวลา 20 ปี
ทีนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า สรุปแล้ว ปัจจุบัน ดร.นิเวศน์จะเลือกลงทุนในอะไร ซึ่งถึงแม้ ดร.นิเวศน์ อาจจะไม่ได้บอกตรงๆ แต่หากทุกคนได้ฟังมุมมองด้านปัจจัย พื้นฐาน และความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว ทุกคนน่าจะรู้ได้ไม่ยากว่าเขาจะเลือกอะไร
ในมุมมองปัจจัยพื้นฐาน ดร.นิเวศน์ ยังคงยืนยันจุดยืนเดิมว่า บิทคอยน์คือ “สินทรัพย์ในจินตนาการ” ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ แม้จะมีเรื่องราวของการมาแทนที่เงินเฟียต แต่ในความเป็นจริงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มันยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในภาคเศรษฐกิจจริง นอกจากจะเป็นเครื่องมือเคลื่อนย้ายเงินสีเทาของกลุ่มผิดกฎหมาย
ต่างจากทองคำที่มีมูลค่าในตัวเองชัดเจน เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะและได้รับการยอมรับมาตั้งแต่อยุคอียิปต์โบราณ ทำให้ราคาทองคำมักจะวิ่งเข้าหามูลค่าที่แท้จริงเสมอ
ไฮไลท์สำคัญที่สุด อยู่ที่การเตือนสติเรื่อง “ความเสี่ยง” ดร.นิเวศน์ ชี้ให้เห็นสถิติอันน่าตกใจว่า ในรอบ 20 ปี ทองคำเกิดวิกฤตราคาตกหนักเกิน 20% เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น แต่สำหรับบิทคอยน์ การร่วงลงระดับ “หายนะ” คือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นแทบทุกปี โดยเคยดิ่งลงลึกสุดถึง 84% ในปี 2018 และมักจะมีการปรับฐานรุนแรงระดับ 50-70% อยู่เสมอ
ล่าสุดแม้บิทคอยน์จะเพิ่งทำจุดสูงสุดที่ 120,000 ดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 68 แต่เพียงเดือนเดียวก็ร่วงลงมาร่วม 28% ซึ่งนักลงทุนต้องท่องให้ขึ้นใจว่า “ราคาทองคำ 20 ปีอาจวิกฤตสักครั้ง หุ้นวิกฤตทุก 10 ปี แต่บิทคอยน์นั้นเกิดวิกฤตทุกปี” ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกลงทุนอะไร กฎเหล็กคือต้องไม่โลภจนเกินตัวและห้ามจำนองบ้านมาลงทุนเด็ดขาด
ที่มา:ThaiVI

