อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย รายงานเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2018 นาย รพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยในงานเสวนาหัวข้อ “Thailand Digital Assets Forum” ว่า เขาได้พบเครือข่ายหลอกลงทุนเงินดิจิทัลจำนวนมาก เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาหลายสิบราย
นาย รพี ระบุว่า ขณะนี้ ทางเขากำลังเร่งตรวจสอบเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงดังกล่าวอยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก.ล.ต. ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเครือข่ายหลอกลวงให้ลงทุนเงินดิจิทัลตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลายสิบราย ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประเมินความเสียหาย และพิจารณาว่ากรณีไหนกระทำความผิดตาม พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
แต่ดูเหมือนว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้าวันที่ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (16 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ออกมานั้น จะไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากพ.ร.ก.ไม่มีผลย้อนหลัง
นาย รพี ได้กล่าวเตือน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับนักลงทุน ว่าถึงแม้เรื่องเงินดิจิทัลจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ยังคงใช้รูปแบบเดิม ๆ
“เงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ใหม่ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้ลงทุน พบการร้องเรียนเยอะมาก ซึ่งรูปแบบส่วนใหญ่ไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่ในอดีต คือ มีการโฆษณาผลตอบแทนในระดับสูง มีอดีตผู้มีชื่อเสียงในวงการลงทุนเป็นหน้าม้าคอยชักชวนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีระบบการให้ผลตอบแทนเพิ่มหากชักชวนผู้อื่นเข้ามาลงทุน สุดท้ายก็หายตัว มีผู้คนหลงเชื่อได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งบางกรณีเกิดก่อน พ.ร.ก.ออก ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ ทำได้แค่แจ้งเตือน”
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ได้มีการเข้าจับกุม จับกุมนาย จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” โดยเขาถูกกล่าวหาว่าไปหลอกเงินนักลงทุนชาวต่าวชาติ ซึ่งมีความเสียหายกว่า 797 ล้านบาท และในวันที่ 29 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ผู้ต้องหาจะต้องเข้าไปพบกองปราบเพื่อดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น