เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากระดานเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยได้ประกาศปิดตัวลง การประโคมข่าวของหลาย ๆ สำนักได้ทำให้นักเทรดชาวไทยต่างตื่นตระหนก , สับสนและหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ของกระดานเทรดดังกล่าวร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานั้น โดยภายหลังจากนั้นสื่อต่างประเทศด้านคริปโตชื่อดังอย่าง News BTC ได้ออกมารายงานว่าพวกเรากำลังเข้าสู่ยุคมืดของวงการคริปโตในไทยแล้ว
ยุคมืดของวงการคริปโตไทย
วันที่ 2 กันยายนได้กลายเป็นวันที่เหล่านักเทรดคริปโตชาวไทยจะต้องจดจำไปอีกแสนนาน เนื่องจากกระดานเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้บอกกับทางลูกค้าว่าพวกเขามีเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นก่อนที่จะปิดตัวลง โดยคำอธิบายเดียวที่กระดานเทรด Bx.in.th ทิ้งไว้ให้กับลูกค้าก็คือพวกเขาต้องการ ‘มุ่งเน้นไปที่โอกาสทางธุรกิจอื่น ๆ’ ซึ่งคำอธิบายดังกล่าวดูเหมือนว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลกับกระดานเทรดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ
ความตื่นตระหนก (panic) ที่เกิดขึ้นได้ทำให้ราคา Bitcoin ใน Bx.in.th ร่วงลดลงต่ำกว่ากระดานเทรดอื่น ๆ อยู่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยในขณะนั้นราคา BTC ได้ร่วงเหลือ 9,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักเทรดชาวไทยต่างพร้อมใจกันเทขายสกุลเงินคริปโตของตัวเอง เพราะคิดว่าการปิดตัวลงของ Bx อาจทำให้พวกเขาสูญเสียสกุลเงินคริปโตทั้งหมดไป
อย่างไรก็ตามเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังคงไม่ชัดเจน เนื่องจาก
ทาง Bx ไม่ได้ออกมาให้เหตุผลที่แท้จริงและสื่อใดที่ติดต่อเข้าไปก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรกลับมา
บริษัทบิทคอยน์จำกัดเปิดตัวในปี 2013 และหนึ่งปีต่อมา bx.in.th ก็ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มการเทรดสำหรับสินทรัพย์คริปโต บริษัทเป็นผู้บุกเบิกวงการคริปโตในช่วงเวลานั้นและเป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang Corporation ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินในประเทศ ยังได้อธิบายอีกด้วยว่าบริษัทอาจไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับภาระงานที่ยิ่งใหญ่นี้หรือบริษัทอาจคิดว่านี่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
“ BX อาจกังวลเกี่ยวกับการให้ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลการค้ากับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นประจำทุกวัน เนื่องจากทาง ก.ล.ต. ต้องการตรวจสอบธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ทุกวัน”
การแข่งขันในประเทศกำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และคู่แข่งคนสำคัญอย่างนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หัวหน้าผู้บริหารระดับสูงของ Bitkub ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วยเช่นกันโดยเขากล่าวว่า
“ สิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะ BX เขาเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วและพวกเขาคงไม่อยากปิดกิจการลงเพื่อเปิดกิจการใหม่อีกเป็นครั้งที่ 2 ”
อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้ง, ACIS Professional Center Co., Ltd. (ACIS) เชื่อว่ามันจำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศไทย
“ เราจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังตลาดดิจิทัลกับตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายคุ้มครองสินทรัพย์ดิจิทัล นี่เป็นกรณีศึกษา ซึ่งเราจะต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ ก.ล.ต. อย่างชิดใกล้”
ดูเหมือนว่ากฎระเบียบข้อบังคับที่มากเกินไปจะมีส่วนทำให้อุตสาหกรรมคริปโตในบ้านเราทยอยปิดตัวลงทีละเจ้า ๆ ซึ่งหากมันยังเป็นเช่นนี้อยู่กระดานเทรด BX อาจจะไม่ใช่ผู้ประกอบการรายเดียวที่ปิดตัวลงก็เป็นได้
ที่มา : newsbtc
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น