ดูเหมือนว่าที่ระดับราคา 8,000 ดอลลาร์จะเป็นแนวรับที่สำคัญของ Bitcoin (BTC) ในช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่ราคาได้ร่วงลงมาจาก 9,400 ดอลลาร์ จนกระทั่งในที่สุดสินทรัพย์ดิจิทัลหมายเลขหนึ่งได้ร่วงลงมาทดสอบแนวรับที่ระดับ 8,000 ดอลลาร์ โดยขณะที่เขียนบทความนี้ Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 8,300 ดอลลาร์ บ่อยครั้งที่ altcoins มักมีลักษณะการเคลื่อนไหวราคาคล้ายกับ Bitcoin ดังนั้น BTC จึงกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่บ่งชี้สถานะของตลาดโดยรวมในปัจจุบัน
หลังจากที่มูลค่าของ Bitcoin ลดลงมาเกือบ 1,700 ดอลลาร์ในวันที่ 24 กันยายน Bitcoin และคริปโตเคอเรนซี่ตัวอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มร่วงตาม Bitcoin จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ คริปโต Big Cheds กล่าวว่า ในช่วงสั้น ๆ นี้ Bitcoin จะยังคงอยู่ในตลาดขาลง แต่ในระยะยาวมันจะเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอน
Big Cheds ทำนายการกลับตัวของราคา Btc
นาย Big Cheds ชี้ให้เห็นว่าเมื่อวันที่ 6 ต.ค. Bitcoin ปิดราคาในกราฟสัปดาห์พร้อมกับแท่งเทียนรูป tweezer bottom ซึ่งกราฟรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแท่งเทียนแท่งที่สองมีไส้เทียนที่ปิดราคาสูงกว่าจุดเริ่มต้น
บางครั้งกราฟรูปแบบ tweezer สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวในราคาของสินทรัพย์นั้น ๆ ได้ ซึ่งรูปแบบแท่งเทียนและการก่อตัว โดยทั่วไปแล้วจะมีความแข็งแกร่งหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับความยาวของกรอบ time frame ซึ่งถ้าหากมีกรอบ TF ที่มีขนาดใหญ่มันก็จะช่วยยืนยันการกลับตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น
การปิดแท่งเทียนรายสัปดาห์ในรูปแบบของ tweezer นั้นมีความสำคัญมากพอสมควรในแง่ของราคา เนื่องจากแท่งเทียนรายสัปดาห์นี้เป็นหนึ่งในแนวโน้ม time frame ที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น
นาย Big Cheds ระบุว่าแพทเทิร์น tweezer นั้นเกิดขึ้นใกล้ ๆ กับจุดต่ำสุดของตัวบ่งชี้ Bollinger Band รายสัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin ได้เข้าใกล้จุดต่ำแล้วและอาจกลับตัวในเร็ว ๆ นี้ Big Cheds ยังกล่าวอีกด้วยว่า สัญญาณดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงสภาวะที่บ่งบอกถึงการเทขายที่มากเกินไป (oversold) แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกล่าวเสริมอีกว่าแท่งเทียนรายสัปดาห์ล่าสุดของ Bitcoin ไม่ได้ปิดราคาด้วยความแข็งแกร่ง
โดยนาย Big Cheds กล่าวว่า:
“มันมีแนวรับที่นี่นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2018 และพฤษภาคม 2019 ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่เราจะเห็นการกลับตัวในระยะสั้น นอกจากนี้ยังมีส่วนของ ‘hidden bullish divergence’ และ ‘OBV’s lower low’ ซึ่งบอกเป็นนัยแล้วว่า Bitcoin อาจจะขึ้นไปต่อ”
สำหรับแนวรับและความบ่งชี้ดังกล่าวเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนในกราฟของนาย Big Cheds
Altcoins กำลังเริ่มมองหาจุดต่ำสุด
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา altcoins ประสบปัญหาอย่างมาก เนื่องจาก Altcoins ส่วนใหญ่นั้นพึ่งพาการเคลื่อนไหวของราคาของ Bitcoin ซึ่งมันไม่สามารถได้รับแรงกระตุ้นจาก BTC ได้ในช่วงเวลานี้ ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Altcoin season จะยังคงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามมันอาจจะกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
ในภาพแนวโน้มปัจจุบันของตลาด altcoin นาย Big Cheds กล่าวว่า “ตอนนี้หลาย ๆ เหรียญกำลังสร้างแพทเทิร์นขาลง ในขณะที่เหรียญอื่น ๆ กำลังมีแนวโน้มกลับตัวเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ตัวอย่างเช่น LINK , XRP และ TNT ” นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกด้วยว่า “หลาย ๆ เหรียญยังคงอ่อนแอและดูเหมือนว่าจะยังคงร่วงลงไปได้อีก”
ตลาดคริปโตที่ bearish และ bullish ในเวลาเดียวกัน
นาย Big Cheds เชื่อว่าตลาดคริปโตเคอเรนซี่จะมีการดำเนินงานที่ดีขึ้น “โดยทั่วไปแล้วตลาดคริปโต นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีและเราจะเห็นได้ว่ากระดานเทรดเริ่มมีการปรับตัวเข้ากับร้านค้าปลีกและตลาดสถาบัน” เขายังกล่าวอีกว่า “ผมรู้สึก bullish เป็นอย่างมากในระยะยาว”
ในส่วนของผลการดำเนินงานตลาดคริปโตเคอเรนซี่ในปีหน้านั้น Cheds ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเขามีจุดยืนที่เป็นกลาง ค่อนข้างไปทาง bullish เล็กน้อย ๆ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันในแง่ของตลาดในช่วงเดือนต่อไปน่าจะยังเป็นขาลงและในระยะสั้น ๆ นี้ตลาดคริปโตจะไม่อยู่ในช่วงขาขึ้นแล้ว
กราฟ Bitcoin รายสัปดาห์
ในฐานะที่เป็นคริปโตเคอเรนซี่อันดับหนึ่ง Bitcoin มักจะเป็นจุดแข็งของราคาตลาดคริปโตโดยรวมเสมอในกรอบ time frames เล็ก ๆ อย่างเช่น กราฟแท่งเทียนรายวันและรายชั่วโมง ซึ่งดูเหมือนว่าราคาของ Bitcoin นั้นกำลังมีโมเมนตัมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับ time frames รายสัปดาห์นั่นมันได้แสดงให้เห็นถึงกรณีของผลลัพธ์อาจจะเป็นทั้งแบบ bullish และ bearish
กรณีของ Bearish
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Bitcoin ไม่มีการกลับตัวเกิดขึ้นเลย และราคามันยังคงร่วงลดลงอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีการดีดตัวขึ้นมาหรือบ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวใด ๆ และโมเมนตัมของมันยังคงอ่อนแรงเกินกว่าจะกลับไปทดสอบแพทเทิร์นที่มันสะสมตัวก่อนหน้านี้
นอกจากนี้การเคลื่อนไหวราคาของ Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมายังดูคล้ายกับช่วงที่ราคาลดลงในเดือนพฤศจิกายน 2018 ซึ่งตามมาด้วยแรงกดดันที่ทำให้เกิดแรงเทขายและในที่สุดมันก็ได้นำไปสู่การร่วงลงอย่างรุนแรง
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือราคา Bitcoin ที่ลดลงเมื่อวันที่ 24 กันยายน นาย Tone Vays ซึ่งเป็นเทรดเดอร์ที่โด่งดังได้ให้เหตุผลว่า มันไม่มีกองทุนใหม่ ๆ เข้ามาในพื้นที่คริปโต ซึ่งนั่นทำให้ตลาดคริปโตขาดความน่าสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและเป็นเหตุผลว่าทำไม Bitcoin ถึงมีโมเมนตัมการซื้อขายลดน้อยลง
กรณีของ Bullish
กราฟรายสัปดาห์เผยให้เห็นว่า Bitcoin ยังไม่แตะระดับ Fibonacci ที่ 0.618 ซึ่งระดับดังกล่าวมักจะถูกมองว่าเป็นระดับทำกำไรได้ และเมื่อเราสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้จะเห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องปกติก่อนที่ราคาจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ราคา Bitcoin นั้นกำลังเข้าใกล้ระดับแนวรับสำคัญที่ประมาณ 7,500 ดอลลาร์ โดยการปรับฐานราคาเมื่อเร็ว ๆ นี้อาจเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของกราฟราคารูปโค้ง(parabolic) ที่ยั่งยืนระหว่างเดือนเมษายนและกรกฎาคม 2019
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น