ในช่วงหลายปีมานี้ Bitcoin เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินทางเลือกสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ข้ามประเทศไปแล้วเพราะค่าธรรมเนียมอันแสนต่ำ และผู้ใช้งาน Bitcoin ยังออกมาบอกด้วยว่า สกุลเงินดิจิทัลนั้นใช้งานง่าย, ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าการทำธุรกรรมทั่วไป
นอกจากนี้ มันยังเก็บรักษามูลค่าได้อีกด้วย หากลองเทียบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าสกุลเงิน Bitcoin นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่า หากเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Bitcoin ยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใหม่และมีความเสี่ยงอยู่มากมาย เพราะงั้นไม่ควรที่จะ All-in ใส่เงินทั้งหมดลงไป เพราะไม่แน่ในวันพรุ่งนี้มูลค่าของมันอาจจะเหลือ 0 เลยก็ได้ ให้ลงทุนใน Bitcoin ด้วยเงินเย็นเท่านั้น (เงินที่เสียไปแล้วไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตของเรา)
แน่นอนว่า สำหรับนักลงทุน, นักเทรดและนักขุด Bitcoin ทั้งหลายแล้ว การเพิ่มจำนวน Bitcoin ที่มีก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา แต่อีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือการเก็บรักษา Bitcoin ยังไงถึงจะปลอดภัย โดยส่วนมากแล้ว ผู้ถือ Bitcoin เหล่านั้นมักจะเก็บมันไว้กับ Wallet ของเว็บเทรด แต่หากลองฟังคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่มาในวงการคริปโตหลายปีล่ะก็จะรู้เลยว่า การเก็บไว้ที่ Wallet ของเราเองนั้นจะปลอดภัยกว่า และในบทความนี้เราจะพาไปแนะนำกันว่า คุณเหมาะกับ Wallet แบบไหนมากที่สุด
1. Coinbase: ดีที่สุดในภาพรวม
ถึงแม้ว่าการเก็บ Bitcoin ที่ดีนั้นจะควรเก็บไว้ใน Wallet ของตัวเอง แต่ก็มีเว็บเทรดบางเจ้าอย่าง Coinbase ที่ให้บริการ Wallet เก็บ Bitcoin เช่นกันและขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยมาก ๆ
Coinbase เป็นหนึ่งในเว็บเทรดที่สามารถซื้อ, ขาย และถือคริปโตไว้ได้ง่ายมาก หากคุณเป็นผู้ใช้งานสหรัฐฯ ก็สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารสหรัฐฯ และโอนเงินดอลลาร์เข้าไป และนำเงินนั้นไปซื้อ Bitcoin ต่อได้เลย
Coinbase รองรับสกุลเงินคริปโตหลัก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin Cash, Ethereum และ Litecoin
ข้อดีที่สุดของ Coinbase ก็คือมันใช้งานง่าย, มีความปลอดภัยสูงมาก และใช้งานฟรีด้วย เพราะมันขึ้นชื่อเรื่องการทำตามกฎระเบียบของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัดทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไว้วางใจว่าจะไม่ถูกแฮ็กเหมือนเหตุการณ์ Mt.Gox ที่เป็นเว็บเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ในอดีต ซึ่งโดนแฮ็กจนทำให้ผู้ใช้งานเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ และก็ปิดตัวลงไป
2. Trezor: ปลอดภัยที่สุด
ถึงแม้ Trezor จะยังไม่มีระบบสำหรับการซื้อขายคริปโตเหมือน Coinbase แต่มันก็ถือเป็นหนึ่งใน Wallet สำหรับการเก็บ Bitcoin ที่ปลอดภัยที่สุดเลย
มันเป็น Cold Wallet ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยมากมายหลายชั้นไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องใช้ตัว Trezor ก่อนถึงเข้า Wallet ได้, การมีระบบรหัสผ่านอีกรอบ, ระบบ Two-factor และอื่น ๆ อีกมากมายที่ครบเครื่องเรื่องความปลอดภัยสุด ๆ
นอกจากนี้มัยังมีระบบป้องกันสำหรับในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน หรือทำ Trezor หายด้วย แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องอย่าทำมันหายเด็ดขาด เพราะต้องทำการซื้อ Trezor ใหม่
ข้อเสียของมันคือ ถ้าเป็นมือใหม่เลย วิธีการใช้งานมันอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย เพราะต้องมีการเชื่อม Trezor กับคอมพิวเตอร์หรือมือถือถึงใช้งานได้ แต่หากศึกษานิดหน่อยก็ใช้งานได้ไม่ยาก
3. Electrum: ดีที่สุดสำหรับ Desktop
Electrum เป็น Wallet แบบซอฟต์แวร์ ซึ่งแปลว่า Bitcoin จะถูกเก็บไว้ในไฟล์ที่เข้ารหัสบน Laptop หรือคอมพิวเตอร์ของเรา
ในตอนนี้มันเปิดให้ใช้งานและดาวน์โหลดได้ฟรี ๆ บน Windows, Mac OS X, Linux, Python และ Android
Electrum สามารถนำไปใช้งานร่วมกับ Cold Wallet บางตัวได้ และถือว่ามีความยืดหยุ่นมากกว่า Hardware Wallet เช่น Trezor
ข้อดีที่สุดเลยของ Electrum คือสามารถดาวน์โหลดมันมาแล้วก็ฝาก Bitcoin เข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์ของเราได้ด้วยเวลาเพียงแปปเดียวเท่านั้น แต่ข้อสียก็คือ ถ้าหากคอมพิวเตอร์ที่เราเก็บ Bitcoin ไว้เกิดพัง, สูญหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน หรือถูกแฮ็ก Bitcoin ที่เราเก็บไว้ก็จะหายไปเลย
อย่างไรก็ตาม Electrum มีระบบ Recovery และสามารถสร้าง ‘Physical Cold Storage’ ให้เราได้ด้วยการปริ้นหรือเขียน Keys รหัสเก็บไว้
4. Blockchain: ดีที่สุดสำหรับการเก็บแบบ Online
Blockchain เป็นชื่อของบริการ Wallet ออนไลน์ชื่อดังที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้คล้าย Coinbase คือ ซื้อ, ขาย และเก็บ Bitcoin ไว้ในนั้น
Blockchain มีระบบที่สามารถส่งคริปโตไปหาคนอื่นได้เหมือน Wallet ทั่วไป โดยมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำ โดยคริปโตหลัก ๆ ที่ Blockchain รองรับก็คือ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum, Stellar Lumens และอื่น ๆ
ในการเก็บคริปโตของเราให้ปลอดภัย Blockchain แนะนำว่าควรจะเปิดใช้งานฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยหลัก 3 อย่างก่อนนั่นก็คือ การยืนยันอีเมล, การยืนยัน Two-Factor และการ Back-up Security Phase
ถ้าคุณกำลังมองเห็น Wallet เก็บคริปโตออนไลน์ที่พึ่งพาได้และปลอดภัยอยู่ Blockchain ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ Blockchain ยังมีกิจกรรมมากมายบ่อยครั้งเช่นการ Airdrop แจกคริปโตให้ผู้ใช้งานฟรี ๆ อีกด้วย
5. Robinhood: ดีที่สุดสำหรับเน้นการซื้อขาย
Robinhood เริ่มต้นจากการเป็นแพลตฟอร์มการเทรดหุ้นแบบไร้ค่าธรรมเนียม และในเวลาต่อมาก็ได้ขยายมารอวรับการลงทุนอื่น ๆ ซึ่งรวมไปถึงคริปโตเช่น Bitcoin ด้วย
Robinhood นั้นทั้งให้บริการ Wallet และซื้อขายคริปโตเหมือน Coinbase ที่สามารถทำทุก ๆ อย่างได้เลยในที่เดียว อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ Robinhood ยังไม่สามารถเปิดให้โอนคริปโตไปยัง Wallet อื่นได้
Robinhood นั้นให้บริการทั้งบนมือถือ และ Desktop ทำให้ใช้งานง่ายและสะดวกเพราะเทรดเวลาไหนก็ได้ ข้อดีที่สุดเลยก็คือมันไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อหรือขาย Bitcoin รวมทั้งซื้อขายหุ้นหรืออื่น ๆ ในแพลตฟอร์มของพวกเขาด้วย
ในแง่ของความปลอดภัยแล้ว Robinhood ก็ไม่ใช่แพลตฟอร์มเล็ก ๆ แต่อย่างใด มันเป็นสตาร์อัปที่มีมูลค่ารวมกว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 169.20 พันล้านบาท และถ้ามันปลอดภัยในระดับที่เก็บรักษาหุ้นไว้ได้ มันก็ย่อมปลอดภัยพอที่จะเก็บคริปโตเช่น Bitcoin แน่นอน
6. Exodus: ดีที่สุดสำหรับ Desktop ถ้าต้องการเก็บและซื้อขายด้วย
Exodus เป็นซอฟต์แวร์ Wallet คล้าย ๆ Electrum แต่มันมีดีไซน์ที่สวยงามและมีฟีเจอร์ที่เยอะกว่า มันเป็น Wallet ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเหมือน Eletrum เลย และทำงานบน Desktop เท่านั้น แต่ก็สามารถทำงานร่วมกับ Trezor ได้
ข้อดีของ Exodus คือไม่ได้แค่เก็บคริปโตอย่างเดียว แต่ยังมีกราฟต่าง ๆ ให้ดูโดยสามารถทำการเทรดคริปโตได้ด้วยเลย
ข้อดีอีกจุดคือไม่ต้องสมัครสมาชิกอะไรให้ยุ่งยาก แค่ดาวน์โหลดมาแล้วก็เปิดใช้งานได้เลย แต่ก็ยังมีข้อเสียเดียวกับ Eletrum คือ หากคอมพิวเตอร์พัง, หาย, ถูกแฮ็กก็คือเหรียญที่เก็บไว้หายเลย ซึ่งต้องระวังไว้ให้ได้
7. Mycellium: ดีที่สุดสำหรับมือถือ
Mycellium เป็น Wallet ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้งานในมือถือโดยเฉพาะทั้ง Android และ IOS ก็ใช้งานได้หมด
Mycellium นั้นมีความซับซ้อนในการใช้งานที่มากกว่า Wallets เก็บ Bitcoin อื่น ๆ นิดหน่อย เพราะงั้นผู้ใช้งานใหม่อาจจะมึนงงและต้องใช้เวลาเรียนรู้กว่าจะคุ้นชิน
Mycellium ไม่ได้ให้บริการบน Desktop เลย แต่พวกเขาก็เคลมว่ามีความปลอดภัยระดับ ‘ธนาคาร’ เลยทีเดียวสำหรับแอปฯ มือถือของพวกเขา โดยสามารถใช้งานร่วมกับ Trezor ได้ด้วย
ข้อดีของมันคือความปลอดภัยที่สูง และสามารถเก็บ Bitcoin ไว้กับเราได้อย่างสะดวกนั่นเอง
และนี่ก็คือ 7 อันดับ Wallet ที่น่าใช้งานในปี 2019 ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละอันนั้นก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปว่าผู้ใช้งานคนนั้นให้ความสำคัญอะไรเป็นหลัก ความปลอดภัยในการเก็บคริปโตของเราเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และมีบทเรียนหลายครั้งแล้วว่า หากถูกแฮ็กก็ไม่สามารถกู้คืนมาได้ ใครที่ยังไม่ใส่ใจในส่วนนี้ควรแก้ไขโดยด่วนที่สุดก่อนที่จะสายเกินไป
ที่มา The balance
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น