เมื่อเร็ว ๆ นี้สตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า DAG Global ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เพิ่งได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร เพื่อเป็น “ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล”
อ้างอิงข้อมูลจาก Financial Times ที่เผยถึง ‘การสนทนาอย่างสร้างสรรค์’ (constructive dialog) กับทางหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศอังกฤษว่า บริษัทสตาร์ทอัพฟินเทคที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังได้ยื่นขอจดทะเบียนเป็น ‘ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรก’ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ มันจะเป็นเชื่อมต่อระบบของบริการสินทรัพย์ดิจิทัลและการธนาคารแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ปัจจุบันเศรษฐกิจดิจิทัลมากมายต่างกำลังเติบโตเพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กับ Bitcoin , Stable coin และสินทรัพย์คริปโตตัวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในเรื่องของความรวดเร็วในการทำธุรกรรม , ค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างถูก และความสามารถในการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง / 7วัน รวมถึงการโอนเงินข้ามพรมแดนแบบไร้ขีดจำกัดด้วยเทคโนโลยี Blockchain
ด้วยอรรถประโยชน์เหล่านี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจึงต้องการที่จะขจัดข้อกังวลในเรื่องของการปิดบัญชีธนาคารของผู้ใช้งาน เนื่องจากข้อจำกัดในด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ รวมถึงการขจัดความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ ‘การยั้บยั้งนวัตกรรม’ ในประเทศต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางอินเดียที่ได้มีการประกาศสั่งห้ามไม่ให้ประกอบธุรกิจใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในช่วงปี 2018
โดยทาง DAG Global ได้มีการประกาศผ่านทางเว็ปไซต์หลักของพวกเขาว่าใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารของประเทศอังกฤษนั้นจะอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม blockchain และ crypto ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการให้กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล (Lending) และการซื้อขายระหว่างบุคคล (OTC) เพื่อขจัดตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินเฟียตและสินทรัพย์ดิจิทัล
“แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลที่แข็งแกร่งของเรานั้นได้ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีขั้นสูงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมได้อย่างคุ้มค่าทั้งในสกุลเงินเฟียตและสินทรัพย์ดิจิทัลแบบดั้งเดิม” DAG Global กล่าว
นอกจากนี้แล้วธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมัน Deutsche Bank ยังได้ประกาศจับมือกับธนาคารระดับโลกอย่าง JP Morgan ไปเมื่อช่วงก่อนหน้านี้อีกด้วย เพื่อร่วมกันพัฒนาโปรเจคด้าน blockchain สำหรับธนาคาร Interbank Information Network (IIN) และสำรวจหาวิธีให้บริการสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินเฟียตไว้ในระบบเดียวกัน
ที่มา : dailyhodl
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น