ปัจจุบัน IOTA ได้เริ่มดำเนินการอัพเกรด Chrysalis ในเฟสแรกอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมปรับปรุงเครือข่ายให้รับรองธุรกรรมได้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปยัง IOTA 1.5
การอัปเกรดดังกล่าวนั้นจะมาพร้อมกับโฮสต์ของการอัปเกรดเพื่อเพิ่มการปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เหรียญ MIOTA มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 13% และมีการซื้อขายกันอยู่ที่ $ 0.397375
การอัพเกรดเครือข่าย IOTA
อ้างอิงจากแถลงการณ์ของมูลนิธิ IOTA Foundation ที่กล่าวว่า Chrysalis นั่นจะนำมาซึ่ง “ประสิทธิภาพที่สำคัญ , การใช้งานและการอัพเกรดความน่าเชื่อถือ” รวมถึงความสามารถในการธุรกรรม 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) และความสามารถในการยืนยันธุรกรรม (confirmation) ที่รวดเร็วภายใน 10 วินาที
ในส่วนของเฟสแรกนั่นจะมีการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุการแก้ไขปัญหาในเรื่องความสามารถในการปรับขนาดอาทิเช่น :
- Improved tip selection (URTS) ที่ช่วยเร่งกระบวนการเชื่อมต่อธุรกรรมไปยังอีกธุรกรรมหนึ่ง
- Better milestone selection ที่ช่วยเร่งความเร็วในการยืนยันธุรกรรมต่อวินาที (CTPS)
- A “white flag” approach ที่ช่วยปรับสมดุลการคำนวณ , เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและป้องกันการโจมตีบางอย่าง
- Autopeering ที่ช่วยลดเวลาในการ set up โหนด
ส่วนในเฟสที่สองจะมีฟีเจอร์อื่น ๆ มากมาย รวมถึงโมเดล UTXO ที่เหมือน Bitcoin , การทำธุรกรรมแบบ Atomic , ที่อยู่กระเป๋าเงินที่สามารถใช้ซ้ำกันได้ , การทำธุรกรรมแบบ binary เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงในเรื่องกรณีการใช้งานมากกว่าปรับปรุงเรื่องความสามารถในการปรับขนาดของ IOTA
คาดว่าการอัพเกรดในเฟสที่สองนี้ จะแล้วเสร็จภายในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม 2020
การอัพเกรดอื่น ๆ
ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า IOTA ไม่ได้มีโครงสร้างเหมือนกับบล็อคเชนตัวอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่ามันไม่ได้ผ่านกระบวนการ “hard forks” โดยตรงแบบที่บล็อกเชนตัวอื่น ๆ ทำ
แต่จะมีการอัปเกรดเครือข่ายต่าง ๆ ที่นักพัฒนานำไปใช้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน จุบัน IOTA กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการอัปเกรด “ผู้ประสานงาน” ซึ่งจะเป็นการกระจายอำนาจของเครือข่าย ด้วยการลบหนึ่งในโหนดส่วนกลางเพื่อให้การสนับสนุนระบบที่มีรูปแบบกระจายอำนาจมากขึ้น
แม้จะมีความพยายามของ IOTA ในของการปรับปรุงเทคโนโลยี แต่โครงการดังกล่าวยังคงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องระบบล่มอยู่บ่อยครั้ง โดย IOTA ได้เผชิญกับปัญหาระบบขัดข้องอย่างน้อยสองครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการอัปเกรดในครั้งนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ IOTA ได้หรือไม่ ซึ่งเราก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา : cryptobriefing