เมื่อเร็ว ๆ นี้ธนาคารแห่งรัฐนิวยอร์ก Mellon (BNY Mellon) พบว่ามีการประมวลผลธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับโปรเจคแชร์ลูกโซ่ OneCoin เป็นมูลค่ากว่า 137 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงตามเอกสารที่รั่วไหลที่ส่งไปยังหน่วยงานเฝ้าระวังทางการเงิน Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN)
เอกสารดังกล่าวมาจากชุดไฟล์ทั้งหมด 2,500 ไฟล์ที่ถูกส่งไปยังสำนักงานของกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ไฟล์ดังกล่าวนั้นถูกส่งไปยัง FinCEN โดยธนาคารทั่วโลกในระหว่างปี 1999 ถึง 2017 รวมถึงรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย (โรคซาร์ส) อีกกว่า 2,000 รายการ
อ้างอิงรายงานจาก Buzzfeed News และ International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ) เปิดเผยว่าธนาคารได้ตั้งสถานะธุรกรรมที่น่าสงสัยกับหลายบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับโปรเจคแชร์ลูกโซ่ OneCoin โดยธนาคารระบุว่า บริษัทเหล่านี้ใช้เทคนิค “layering” ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ผิดกฎหมาย ด้วยการโอนเงินผ่านธุรกรรมต่าง ๆ
OneCoin เป็นโปรเจคแชร์ลูกโซ่ที่ถูกสร้างโดยผู้ก่อตั้ง Ruja Ignatova และคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในเดือนมีนาคม 2019 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตั้งข้อหา Ignatova และผู้นำคนอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังโปรเจคนี้ ในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์และการฟอกเงิน OneCoin ได้รับเงินระดมทุนไปกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ก่อนที่โปรเจคจะปิดตัวลงในปี 2017
เอกสารรั่วไหวของ FinCEN แสดงให้เห็นถึงธุรกรรมรายการหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2016 เมื่อ Fenero Equity Investments ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินโอนเงินประมาณ 30 ล้านดอลลาร์จากบัญชีที่ DMS Bank & Trust ของธนาคารในหมู่เกาะเคย์แมนไปยังธนาคาร BNY Mellon โดย Fenero เรียกการชำระเงินนี้ว่า “เงินกู้สำหรับคริปโต” ซึ่งเป็นชื่อบัญชีที่ถูกตั้งขึ้นโดยนาง Ignatova
ในแถลงการณ์ที่ส่งไปถึง ICIJ , BNY Mellon กล่าวว่า “มันมีบทบาทในการปกป้องความมั่นคงของระบบการเงินโลกอย่างจริงจัง รวมถึงการยื่นรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสงสัย ในฐานะสมาชิกที่เชื่อถือได้ของชุมชนการธนาคารระหว่างประเทศ เราได้ปฏิบัติตามกฎหมายและกฏระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเต็มที่และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในงานสำคัญ ๆ ที่พวกเขาทำ”
ที่มา : theblockcrypto