นับตั้งแต่ที่ตลาดคริปโตบูมถึงขีดสุดและเข้าสู่ยุคทองของ ICO ในปี 2017 นับแต่นั้นมาเหรียญ Altcoin ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ โดยเหรียญ Altcoin ชั้นนำส่วนใหญ่ยังคงอยู่ห่างไกลจากจุดสูงสุดตลอดกาลมากกว่า 50% ในขณะ Bitcoin เริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมทุกที ๆ แล้ว
มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Bitcoin นั้นกำลังอยู่ในโหมดขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ Altcoin นั้นกลับยังคงแสดงให้เห็นถึงความลังเลที่จะเดินรอยตาม Bitcoin และตอนนี้พวกมันกำลังอยู่ที่ทางแยกสำคัญที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนในอนาคตข้างหน้าของตลาดคริปโต
คำสัญญาที่หลอกหลวง
Bitcoin เป็นเหรียญคริปโตตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาในพื้นที่นี้ และหลังจากนั้นมา Altcoin ส่วนใหญ่ก็ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาชนะ Bitcoin ในรูปแบบของตัวมันเองและแม้ว่าจะสามารถทำธุรกรรมที่เร็วขึ้น, มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ถูกกว่าหรือความสามารถในการปรับขนาดที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง Bitcoin ก็ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดคริปโตมากที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน
Ethereum, XRP และเหรียญ Altcoin ชั้นนำตัวอื่น ๆ ได้ค้นพบเส้นทางพวกมันเองที่เดินควบคู่ไปกับ Bitcoin โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักลงทุนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามพื้นที่ Altcoin ส่วนที่เหลือนั้นเต็มไปด้วยคำสัญญาที่หลอกลวงและดูเหมือนว่าโครงการเหล่านี้จะไม่สามารถย้อนกลับไปที่จุดสูงสุดก่อนหน้านี้ได้อีกแล้ว แม้แต่ Ethereum และ XRP ก็ดูเหมือนว่าจะตกอยู่ในชะตากรรมนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งในท้ายที่สุดมูลค่าตลาดของ Altcoin โดยรวมก็จะเดินมาถึงทางแยกที่สำคัญและเมื่อความไม่แน่นอนเริ่มหยุดลงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ก็จะตามมา
จากกราฟรายเดือนของมูลค่าตลาดคริปโตโดยรวม เราจะเห็นได้ว่าแท่งเทียนรายเดือนได้เซ็ตตัวขึ้นเป็นรูปแบบ Doji ที่บริเวณแนวต้าน ซึ่งเป็นไปได้ว่าที่จุดนี้ตลาดคริปโตอาจมีการกลับเกิดขึ้นได้
ช่วงขาขึ้นของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนเริ่มลังเลที่จะลงทุนในเหรียญ Altcoin
ความไม่มั่นใจเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเส้น Tenkan-sen และ Kijun-sen มาบรรจบกันบนตัวชี้วัด Ichimoku การตัดกันของทั้งสองเส้นนี้ ปกติแล้วมักจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
หากเส้น Tenkan-sen กับ Kijun-sen ตัดกันขึ้นด้านบน นั่นจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าตลาดกระทิงสำหรับ altcoins กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ถ้าเส้น Tenkan-sen ตัดกลับลงมาอยู่ใต้ Kijun-sen ตลาดหมีก็ดูเหมือนว่าจะกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงก็ตาม
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ กราฟข้างต้นแสดงให้เห็นถึงช่วงขาลงของตลาด Altcoin ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงปี 2023 ดังที่เห็นในเมฆสีแดง นอกจากนี้เมฆยังทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดการเคลื่อนไหวของราคาให้วางตัวเป็นแนวรับหรือแนวต้านอีกด้วย
สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงช่วงเก็บสะสมราคาที่จุดสูงสุดของอดีตในอีกหลายปีข้างหน้า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งสำหรับเหรียญ altcoins
จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่าแม้ Bitcoin จะยังคงอยู่ในโหมดขาขึ้น แต่นักลงทุนคริปโตก็ไม่ควรลงทุนในตลาดคริปโตอย่างประมาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและความล้มเหลวทางเศรษฐกิจนั้นยังมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดในวงกว้างได้อีกครั้ง