ดูเหมือนว่าราคา Bitcoin นั้นจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเบรคทะลุเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์และพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 23,800 ดอลลาร์ไปในช่วงเมื่อวานนี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ตัวชี้วัดทางเทคนิคในกราฟ TF รายวันส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น โดยการเคลื่อนไหวของราคาในเมื่อวานนี้เกิดขึ้นพร้อมกับช่วงเวลาที่ดัชนี RSI ดีดตัวกลับมายืนเหนือระดับ 70 อีกครั้ง และฮิสโตแกรมของ MACD ก็ได้พลิกกลับมาอยู่ในโซนขาขึ้นแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในกราฟ TF รายสองชั่วโมงกลับให้ข้อมูลที่แตกต่างออกไป โดยแสดงให้เห็นว่าราคา BTC ยังมีโอกาสที่จะร่วงลงไปทดสอบเส้นแนวโน้มด้านล่าง ส่วนดัชนี RSI และ MACD ก็เริ่มแสดงสัญญาณการกลับตัวแล้วให้เห็นบ้างแล้ว
หากราคา BTC ร่วงลดลงจากระดับราคาในปัจจุบัน แนวรับที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 21,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับระดับ Fib retracement ที่ 0.618%
การนับเวฟ
บทความการนับเวฟของเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า BTC นั้นกำลังอยู่ในวัฏจักรช่วงขาขึ้นระยะยาวในรอบที่ 5 ซึ่งคาดว่าจะมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 26,000 ดอลลาร์
การนับเวฟสำหรับช่วงขาขึ้นในรอบนี้แสดงเป็นเส้นสีส้มตามกราฟที่แสดงด้านล่าง หากการนับเวฟนี้ถูกต้อง BTC ตอนนี้จะอยู่ในเวฟ 3 พอดี ซึ่งได้รับการยืนยันจากการเบรคตัวของราคาที่เชื่อมต่อกับเวฟ 1 และเวฟ 2 เมื่อไม่นานมานี้
โดยมีสองเป้าหมายราคาที่เป็นไปได้สำหรับการนับเวฟ 3 ย่อย ดังต่อไปนี้ :
- $ 25,871 ซึ่งพบได้จากการขยาย Fibo ในเวฟ 1 (สีส้ม) ที่ระดับ 2.61%
- $ 23,654 ซึ่งพบได้จากการขยาย Fibo ในเวฟ 1 (สีดำ) ที่ระดับ 1.61%
การนับเวฟ 3 ย่อย (สีดำ) แสดงให้เห็นว่าเวฟ 3 ยังไม่เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเราสามารถนับการเคลื่อนที่ขึ้นด้านบนได้เพียงสองครั้งเท่านั้นแทนที่จะเป็นสาม ดังนั้นคาดว่าราคา BTC จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะมีการปรับฐาน
ราคา BTC นั้นมีโอกาสปรับฐานลดลงได้ถึง $ 21,000 – $ 21,500 (วงกลมสีเขียว) เพื่อทำเวฟ 4 ย่อยให้เสร็จก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้การขยาย Fibo ที่ระดับ 4.61% ของเวฟ 1 ย่อย ยังทำให้เราเห็นเป้าหมายราคาสูงสุดของเวฟ 3 ที่ระดับ 26,000 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับราคาเป้าหมายที่เราได้กล่าวไปข้างต้น
สรุป
ราคา Bitcoin คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 26,000 ดอลลาร์ จากนั้นถึงจะมีการปรับฐานราคาในระยะสั้นกลับไปลงที่ 21,500 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวปรับตัวช่วงขาขึ้นต่อไป
บทความนี้เป็นเพียงบทวิเคราะห์ คำแนะนำ หรือความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น นักลงทุนทุกท่านควรทำการศึกษาและตัดสินใจในการลงทุนด้วยตนเองทุกครั้ง