จากการที่บริษัทชั้นนำของโลกมากมายกระโดดเข้าร่วมวง Bitcoin แล้วไม่ว่าจะเป็น MicroStrategy, PayPal, Visa และล่าสุดอย่าง Tesla ทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก
ซึ่งภายหลังจากที่ Tesla ได้ใช้เงินกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์เข้าซื้อ Bitcoin เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ข่าวลือของ Apple และ Google ที่จะตามเข้ามาลงทุนก็มีให้เห็นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดสาย
ประกอบกับกระแส Bitcoin ได้เข้าถึงการลงทุนในทุกภาคส่วน จึงเกิดคำถามตามมาที่หลายคนสงสัยว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Google จะเข้ามาลงทุนใน Bitcoin หรือไม่?
หรือ Elon Musk จะเป็นชนวนให้ทั้งสองบริษัทเข้ามาลงทุน Bitcoin
หลังจากการคลุกคลีในวงการคริปโตมาระยะหนึ่งของนาย Elon Musk เขาก็ได้นำบริษัท Tesla เข้าซื้อ Bitcoin โดยการชักชวนของ CEO แห่ง MicroStrategy อย่างนาย Michael Saylor ที่บริษัทนี้ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลกรวมแล้วกว่า 91,326 BTC
ซึ่งการถือครอง Bitcoin ของบรรดาบริษัทต่าง ๆ เหล่านี้มีนัยยะหลายประการไม่ว่าจะเป็นการเล็งเห็นถึงศักยภาพที่จะเติบโต หรือคุณสมบัติของมันที่ไม่พึ่งตัวกลาง เป็นต้น
อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) ของค่าเงินดอลลาร์ อันเนื่องมาจากวิกฤต COVID-19 ปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง ทำให้ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ประกาศเงินอัดฉีดเข้ามาในระบบ และล่าสุดได้เพิ่มเม็ดเงินอีกกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม Case study ของ Tesla ในครั้งนี้ที่กล้าจะเปลี่ยนเงินสดมาเป็น Bitcoin และยังสามารถทำกำไรได้อีก อาจเป็นชนวนสำคัญที่มีแนวโน้มพาทั้งบริษัท Apple และ Google เข้ามาในตลาดแห่งนี้
ซึ่งจะส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มมีความคิดที่จะแบ่งเงินสดมาถือครอง Bitcoin บ้างเสียแล้ว
ประกอบกับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา MicroStrategy ยังได้จัดประชุมออนไลน์ให้ความรู้แก่บริษัทอื่น ๆ ในเรื่องการถือครอง Bitcoin ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คน ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมีความสนใจใน Bitcoin อย่างแพร่หลายมากขึ้น
นับเป็นแรงกดดันให้ Apple และ Google หรือบริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ แห่งที่ยังไม่ตื่นตัวได้เป็นอย่างดีในการเข้าร่วมวงถือ Bitcoin
เงินสดที่ล้นมืออาจทำให้ Apple และ Google เป็นวาฬตัวใหม่ที่ได้เปรียบ
Apple เป็นบริษัทที่มีเงินสด (Cash on Hand) มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วยเม็ดเงินกว่า 1.95 แสนล้านดอลลาร์ และ Google ที่มีกว่า 1.30 แสนล้านดอลลาร์
ทำให้สองบริษัทยักษ์ใหญ่ดังกล่าวดูจะมีแนวโน้มภาษีที่ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ ที่กระโดดเข้าร่วม Bitcoin มาก่อนหน้านี้ ซึ่งหากแบ่งเงินเพียง 5% ของเงินสดในมือมาถือ Bitcoin แล้วล่ะก็ อาจจะทำให้สองบริษัทดังล่าวกลายเป็นผู้เล่นใหม่คนสำคัญต่อตลาดคริปโตเป็นแน่แท้
ซึ่งอดีตผู้บริหาร Goldman Sach อย่างนาย Raoul Pal เคยกล่าวไว้ว่า
“ผมต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากถ้าภายใน 5 ปีหลังจากนี้บริษัท Apple และอื่น ๆ ไม่ได้ถือ Bitcoin ”
หากดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้วคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเป็นผู้เล่นยักษ์ใหญ่รายใหม่ที่จะเข้ามาเขย่าวงการ Bitcoin
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่จะสร้างเป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโตนั้นก็เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง อีกทั้งเงินสดในมือของ Google ก็มีเหลือเฟือเพียงพอที่จะแบ่งมาถือครอง Bitcoin
ซึ่งกระแสที่ถูกผู้คนพูดถึงมากมายในขณะนี้ ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าทาง Apple และ Google คงรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของคริปโต แต่จะมีการตอบสนองต่อวงการ Bitcoin อย่างไรเราคงต้องติดตามกันต่อไป
ไม่แน่อาจมีการเคลื่อนไหวบางอย่างอย่างเงียบ ๆ แล้วก็เป็นได้ แต่ที่แน่ ๆ บริษัท Tesla และ MicroStrategy ได้ทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าการลงทุนใน Bitcoin นั้นให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไร
บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการลงทุน หากเกิดความเสียหายใด ทาง Siam Blockchain จะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น