การปรับใช้สัญญาอัจฉริยะ (smart contract) บน testnet Alonzo ของ Cardano ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีความล่าช้าก็ตาม
เครือข่าย Cardano อยู่ในช่วงของการถูกพัฒนาและการอัปเกรดเครือข่าย โรดแมปโปรโตคอลคือ เฟส Goguen ซึ่งนำ smart contract มาสู่เครือข่าย นี่เป็นเฟสที่สามต่อจาก Byron และ Shelley โดยเฟส Goguen ได้มีการแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ได้แก่ Allegra, Mary และ Alonzo
การอัปเดต Allegra เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมปีที่แล้ว และการอัปเดตของ Mary ถูกปรับใช้บนเครือข่ายหลักในวันที่ 1 มีนาคมเมื่อต้นปีนี้ ส่วนการอัพเกรด Alonzo แบ่งออกเป็นสามเฟสที่แตกต่างกัน ได้แก่ Blue, White และ Purple ในขณะที่การปรับใช้ขั้นสุดท้ายของการอัปเกรด Alonzo บน mainnet นั้นวางแผนไว้ในเดือนสิงหาคม 2021 ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความล่าช้าในการเปิดตัวเฟส เนื่องจากความคืบหน้าของ Alonzo ยังอยู่ในส่วน testnet
Alonzo มีการนำฟังก์ชัน smart contract ที่รอคอยมานานเข้ามาสู่เครือข่าย ชุมชนจึงกระตือรือร้นที่จะเห็นการทำงานเหล่านี้ เนื่องจากจะมีการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (DApps) บนบล็อกเชน
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท Input Output HK (IOHK) ได้ประกาศบน Twitter ว่า Alonzo testnet ของพวกเขาได้ทำการ hard fork จาก Alonzo Blue ไปเป็นโหนด Alonzo White แล้ว ทำให้สามารถขยายฟังก์ชัน smart contract ของพวกเขาบนแพลตฟอร์มได้ แม้ว่า Alonzo Blue จะมีการใช้ smart contract แต่ความพร้อมในการใช้งานนั้นจำกัดเฉพาะคนวงในเท่านั้น ตอนนี้ Alonzo White อนุญาตให้ผู้ดำเนินการใน stake pools , นักพัฒนาเครือข่ายและ validators 500 ราย สามารถทดสอบการทำงานนี้ได้ในอนาคต Alonzo White testnet จะมีระยะเวลาสองถึงสี่สัปดาห์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการอัปเดต Alonzo อย่าง Alonzo Purple
เครือข่ายของ Cardano อยู่ในเฟสที่สามของการพัฒนา หรือที่เรียกว่าการอัปเกรด Goguen ซึ่งเป็นการตั้งชื่อตามนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน Joseph Amadee Goguen การอัปเกรดนี้ได้รวม smart contract เข้ากับเครือข่าย ซึ่งช่วยให้สามารถสร้าง DApps ได้ ส่วนการอัปเกรด Byron ในเฟสที่หนึ่ง ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือข่าย และ Shelley เฟสที่สองได้เน้นไปที่การกระจายอำนาจ (decentralization)
หลังจากเสร็จสิ้นเฟส Goguen ซึ่งในตอนแรกคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม 2021 Cardano ก็จะผ่านเฟสที่สี่และห้าของแผนงานของโปรเจ็คที่ชื่อว่า Basho และ Voltaire Basho ซึ่งจะมีการปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดและความสามารถในการทำงานร่วมกันของเครือข่าย ในขณะที่ Voltaire จะทำให้เครือข่ายมีการ “กระจายอำนาจอย่างแท้จริง” ด้วยการถ่ายโอนกลไกการกำกับดูแลทั้งหมดไปยังผู้เข้าร่วมเครือข่าย และจะไม่อยู่ภายใต้การจัดการของ IOHK อีกต่อไป
การคาดการณ์ล้มเหลว
แม้จะมีโรดแมปที่ดีและการอัปเดตเฟสตามที่เครือข่ายวางแผนเอาไว้ แต่คำถามบางข้อเกี่ยวกับการใช้งานปัจจุบันก็ถูกหยิบยกขึ้นมา โดยนาย Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano ได้คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2020 ว่า ในหนึ่งปีจะมีเครือข่ายเหรียญ Token หลายร้อยรายการที่ทำงานบน Cardano รวมถึง DApps นับพันและ “โปรเจ็คที่น่าสนใจอีกมากมาย”
ในปีถัดมา ฝูงชนได้ชี้ให้เห็นว่า เครือข่ายไม่ได้มีการใช้งานใกล้เคียงกับระดับที่ Hoskinson คาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันสมาชิกหลายคนของชุมชน Cardano ได้ปกป้องเครือข่ายของตนโดยเผยว่า คำพูดของ Hoskinson เป็นเพียงการคาดการณ์และไม่ใช่คำสัญญา ซึ่งนาย Hoskinson ตอบโต้นักวิจารณ์ว่า “Cardano มีสินทรัพย์ในเครือข่ายหลายพันรายการ”
นอกจากนี้เขายังเผยแพร่วิดีโอบน YouTube เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม โดยเผยว่า โปรเจ็คเหล่านี้กำลังดำเนินการตามกรอบงานของโรดแมปที่กำหนดไว้ และจะมีการจำหน่าย nonfungible tokens (NFTs) มูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์ทั่วทั้งเครือข่าย เขาเสริมว่าเมื่อมีการใช้งาน Alonzo White บนเครือข่ายหลักแล้ว นักพัฒนาจะสามารถเปิดใช้ DApps และ NFTs บนเครือข่ายได้ Ben Armstrong ยูทูปเบอร์และผู้สร้าง BitBoyCrypto.com ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า
“ทีม Cardano ที่เลื่อนช่วงการเปิดตัว smart contract ไปในเดือนกันยายน ผมไม่คาดว่าจะเกิดความล่าช้าอีกต่อไป ผมมองว่าเป็นวิธีการที่เป็นระบบของ Cardano พวกเขาได้เลื่อน deadline ออกไปดีกว่าเปิดตัวแบบไม่ดี”
Marie Tatibouet หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Gate.io บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ให้สัมภาษณ์กับทาง Cointelegraph ว่า โรดแมปยังคงดูดี ส่วนคำถามที่หยิบยกขึ้นมาในด้านอรรถประโยชน์ของเครือข่าย Cardano เธอให้ความเห็นว่า เนื่องจากข้อเสนอหลักของการอัปเกรด Alonzo ในเฟส Goguen ประกอบไปด้วยการดำเนินการใช้ smart contract บนเครือข่าย จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าเครือข่ายขาดอะไรไปจนกว่า smart contract ได้รับการบูรณาการอย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้นาย Armstrong กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ smart contract ที่รั้งการเติบโตของเครือข่ายว่า “มันเป็นสถานการณ์ไก่และไข่ คุณต้องมี smart contract เพื่อให้การพัฒนา DApp ดำเนินต่อไปได้จริง แต่คุณยังต้องการนักฆ่า DApps เพื่อดึงการพัฒนาไปสู่พื้นที่ โดยตอนนี้มี DApps มากมายบนเครือข่าย Ethereum และผู้คนกำลังรอคอย Cardano”
เขายังกล่าวอีกว่า เนื่องจากนักพัฒนาบล็อกเชนมีความต้องการสูงมากในขณะนี้ การรุกล้ำจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ “เมื่อ ICP เข้าสู่ Coinbase ในปีนี้ นาย Charles เปิดใจเกี่ยวกับวิธีที่ Dfinity แย่งชิงวิศวกรชั้นนำของเขาหลายคนไป ผมคิดว่านั่นทำให้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาเฉพาะของ Cardano ทั่วทั้งอุตสาหกรรม”
เกือบ 72% ของ ADA ทั้งหมดถูก stake ไว้แล้ว
ในปัจจุบันโทเค็น ADA เกือบ 72% จากทั้งหมดได้ถูก stake บนเครือข่าย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง 2,745 pool ที่ใช้งานและที่อยู่ adreess ที่ stake ทั้งหมดเกือบ 716,000 ที่อยู่เลยทีเดียว
Tatibouet พูดถึงการใช้งานปัจจุบันของโทเค็น ADA โดยกล่าวว่า “ณ ตอนนี้ หน้าที่หลักสองประการของโทเค็น ADA คือ staking และ governance ในแง่นี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากที่ผู้ถือครองจำนวนมากมีความศรัทธาในเครือข่าย และได้ stake โทเค็นของตนในระบบนิเวศ”
เธอยังเสริมอีกว่า สิ่งสำคัญก็คือ staking ใน ADA นั้นมีความยืดหยุ่นมากกว่าโปรโตคอลอื่น ๆ ช่วยให้ผู้ stake สามารถเข้าถึงโทเค็นของตนได้ทุกเวลา เนื่องจากโทเค็นไม่ได้ถูกล็อกอย่างสมบูรณ์ จึงช่วยเพิ่มความสะดวกในการ stake บนเครือข่าย นอกจากนี้ Armstring ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวม smart contract ที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการ stake ในเครือข่าย โดยอธิบายว่าทำไมโทเค็นจึงถูก stake เอาไว้
“พวกเขาได้ถือครองผ่านการ stake ใน ADA ของพวกเขา ไม่ใช่แค่เพื่อนำไปใช้เพื่อประโยชน์เท่านั้น แต่ในเรื่องการกำกับดูแลใน Voltaire ด้วย แม้จะอยู่ในช่วงดำเนินการ smart contract แต่ก็ยังมี NFT ที่คุณสามารถซื้อได้และมีเกมให้เล่น แต่เมื่อ ADA ยืนยันตัวเองใน smart contract แล้ว คุณจะเห็นว่าจำนวน staking นั้นจะลดลงอย่างมาก”
เกี่ยวกับการเปิดตัว DApps ของ Cardano หลังจากที่ใช้ smart contract แล้ว Cardano ยังพยายามเสนอการใช้งานในชีวิตจริงผ่านเครือข่าย เมื่อต้นเดือนเมษายน IOHK ร่วมมือกับรัฐบาลเอธิโอเปียในการประมูล เพื่อปรับปรุงระบบการศึกษาของประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชนของ Cardano
ในเดือนกรกฎาคม บริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ Grayscale ได้เพิ่มโทเค็น ADA ใน Digital Large Cap (GDLC) ทำให้เป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของตะกร้ากองทุน รองลงมาจาก Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) Grayscale ถูกมองว่าเป็น benchmark ของความสนใจของสถาบันการเงินในตลาดสกุลเงินดิจิทัล โดยทาง Duc Luu ประธานบริหารของ Spores Network ซึ่งเป็นตลาด NFT และการเงินแบบกระจายอำนาจบน Cardano ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า
“Cardano ให้คำมั่นถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับบล็อคเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง และปริมาณงานที่สูงขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้เป็นสถานที่ที่โดดเด่นสำหรับ NFT รวมถึงการนำ DeFi ไปใช้ในกระแสหลัก ซึ่งเป็นสองประเด็นที่ทำให้นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก”
ขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับเวลาของการใช้งานแบบเรียลไทม์ในเครือข่าย Luu ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้และเสริมว่า: “ฟังก์ชันเจ๋ง ๆ เช่น ตัวแปลง ERC-20 ที่จะช่วยในเรื่องการแปลงจาก ETH เป็น ADA จะช่วยให้โปรเจ็คได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้มีหลายโปรเจ็คที่เรารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับการเปิดตัว smart contract ของ Cardano” นอกจากนี้เขายังคาดการณ์ว่าภายในหกเดือน นับจากการเปิดตัว smart contract บนเครือข่าย ระบบนิเวศของ Cardano จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสำหรับการอัพเกรดเครือข่าย Alonzo จะต้องเป็นไปตามกำหนดเวลาบน mainnet เนื่องจากเป็นที่คาดหวังอย่างมากในชุมชน นอกจากนี้ Cardano ยังมีบล็อกเชนอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาดอย่างเช่น Binance Smart Chain (BSC) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ที่มา: CoinTelegraph