นาย Roman Koshlyak อดีตวิศวกรด้านซอฟต์แวร์ของ Facebook และ CEO ของ Troider ได้ทำการทดลองระบบประกาศข่าวและเปิดให้ผู้คนมาลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ NASA สร้างกระเป๋าเหรียญบิทคอยบนยานอวกาศ Curiosity และ Opportunity และนำเอาไปปล่อยบนดาวอังคาร
“ยาน Curiosity เป็นยานขนาดรถเก๋ง 1 คันมีรูปร่างเป็นหุ่นยนต์โดยมีหน้าที่ในการตรวจสภาพพื้นผิวบนดาวอังคารแถวๆ Gale Crater บนภารกิจที่มีชื่อว่า NASA’s Mars Science Laboratory ตั้งแต่ลงจอดบนดาวอังคารเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2012 ในขณะที่ยาน Opportunity ค่อนข้างที่จะเก่ากว่า โดยลงจอดเมื่อปี 2002
ถ้าหากยานที่ว่านี้ได้นำเอากระเป๋าบิทคอยน์ติดไปด้วยนั้น การส่งบิทคอยไปที่ที่อยู่กระเป๋านี้จะถือเป็นการส่งบิทคอยน์ไปดาวอังคารครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะจารึกว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มนุษย์ได้ทำการส่งเงินออกไปนอกโลก
แต่ในขณะเดียวกัน การรับบิทคอยบนดาวอังคารอาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากว่าไม่มีมนุษย์อยู่บนดาวอังคาร และไม่มีอินเทอร์เนตบนอวกาศ แต่อย่างไรก็ตาม แผนการที่ว่านี้สามารถที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะนาย Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla Motors, PayPal และ Space X ได้เปิดเผยแผนการที่จะทำการส่งดาวเทียมนับร้อยไปสู่อวกาศ โดยมีเป้าหมายระยะสั้นเพื่อ “สร้างการสื่อสารระดับโลก” และแผนการระยะยาวเพื่อส่งมนุษย์ไปสู่ดาวอังคาร
โดยนาย Elon Musk ได้กล่าวถึงแผนการที่จะส่งมนุษย์ไปดาวอังคารและหวังว่า “จะทำให้มนุษย์เป็นลูกครึ่งโลก-ดาวอังคาร” โดยการสร้างเมืองที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้บนดาวอังคารอีกด้วย ถือว่าแผนการนี้เป็นสิ่งที่ถือเป็นความทะเยอทยานอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ เพราะว่ายังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน โดยในขณะนี้สิ่งที่เรารู้กันดีคือดาวอังคารนั้นไม่มีชั้นบรรยากาศและไม่มีน้ำ ซึ่งการจะทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ถือว่าไม่ง่าย แต่นาย Elon ได้เผยว่าเขามีทรัพยากรและความสามารถที่จะทำให้มันเป็นจริงได้
ยิ่งไปกว่านั้น นาย Elon Musk อาจจะขอความช่วยเหลือจาก Donald Trump เพื่อที่จะทำให้โครงการสำรวจดาวอังคารของเขาเป็นจริงอีกด้วย
ดาวอังคารคือโลกแห่งใหม่
เมื่อลองคิดดูแล้วนั้น การจะสร้างโลกใหม่บนดาวอังคารจะต้องใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาล บางคนอาจตั้งคำถามว่าทำไปเพื่ออะไร คำตอบแรกๆคงเป็นการเอาตัวรอดของมนุษย์ ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติขึ้นมา ในขณะที่อีกเหตุผลหนึ่งคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของจำนวนประชากรบนพื้นผิวโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีวันจบสิ้น อีกไม่นานเราคงจะไม่มีพื้นที่เหลือเพียงพอบนโลก และเหตุสุดท้ายคือมนุษจะสามารถทำการวิจัยและค้นคว้าเกี่ยวกับอวกาศจากดาวอังคาร ซึ่งถือเป็นจุดที่ทำได้ง่ายกว่าบนโลก
สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการก่อตั้งเมืองบนดาวอังคารคือการค้นคว้าถึงการเดินทางระหว่างโลกกับดาวอังคาร กล่าวคือต้องทำให้มันสั้นลง (และทำให้คนทั่วๆไปสามารถจ่ายเงินซื้อเพื่อเข้าถึงได้), สร้างระบบโทรคมนาคม, เก็บเกี่ยวทรัพยากรและออกซิเจน, สร้างน้ำ และสร้างฐานทัพเพื่อที่จะได้เตรียมตัวออกหาล่าดาวดวงอื่นต่อไป
บิทคอยคือค่าเงินสกุลดาวโลก
ถ้าหากเมืองบนดาวอังคารเป็นจริงขึ้นมา สิ่งพื้นฐานคงจะหนีไม่พ้นค่าเงินประจำดาวอังคาร โดยระบบธนาคารอาจจะใช้งานได้จริง แต่ระบบอินเทอร์เนตจากโลกอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัว โดยหน่วยของระยะทางมันคือปีแสงที่อาจจะใช้เวลาประมาณ 6-44 นาทีสำหรับการสื่อสารระหว่างกัน และยังมีตัวแปรเรื่องของระยะห่างระหว่างโลกกับดาวอังคารอีกด้วย
การที่จะขจัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้นั้น อาจจะสามารถใช้บิทคอยเป็นตัวแก้ปัญหาในระยะแรกเพราะการส่งเงินไปมาระหว่างดาวสองดวงนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ชาวดาวอังคารสามารถที่จะสร้างกระเป๋าเงินเป็นของตัวเองได้ โดยมี private key หรือรหัสเปิดกระเป๋าแบบขูดโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือเงินสดแม้แต่น้อย แถมยังสามารถที่จะช่วยกระตุ้นการซื้อขายโดยที่แทบจะไม่ต้องติดต่อกับบิทคอยเน็ทเวิคเลย และท้ายสุดพวกเขายังสามารถที่จะสร้างหน่วยเงินเป็นของตัวเองและใช้เทรดกันระหว่างโลกและดาวอังคาร
นี่เป็นโลกแห่งอนาคตและอาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้อันเนื่องมาจากดทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราอาจจะได้เห็นบิทคอยเป็นค่าเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงชีวิตของเราก็ได้
มนุษย์คนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนดวงจันทร์มีชื่อว่า Eugene Cernan เมื่อ 44 ปีที่แล้ว โดยถือเป็นความสำเร็จแห่งมนุษยชาติที่ช่วยเปิดโลกจินตนาการให้กัยคนรุ่นต่อมา แต่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานี้เราต้องประสบกับปัญหานานาชาติมากมาย แต่สิ่งนั้นกำลังจะจากไปเมื่อมีบุคคลอย่าง Elon Musk และ Trump ที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียงว่าเขาจะทำให้ NASA มุ่งเป้าหมายไปที่การสำรวจอวกาศ โดยสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ฝันที่เรามีถึงโลกแห่งอนาคตกลายเป็นความจริงขึ้นมาก็ได้
ภาพจาก Viral Portal
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น