<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

BITCOIN กลายเป็นคำค้นหายอดนิยมทั่วโลกในขณะนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ความสนใจในบิทคอยได้เพิ่มมากขึ้นทั่วโลกโดยวัดจากคีย์เวิร์ดในการค้นหาบน Google และ Baidu โดยสถิติแสดงให้เห็นถึงการเซิชคำว่า bitcoin ที่เยอะมาก และมากเป็นพิเศษในประเทศเวเนซุเอลา, บราซิล, ไนจีเรียและอินเดียและไทย ในขณะเดียวกันในจีนที่ใช้ Baidu ก็เช่นกัน

โดยการปะทุของคีย์เวิร์ดที่ว่านี้มีขึ้นมากที่สุดในไนจีเรีย ซึ่งถือเป็นประเทศที่กำลังประสบปัญหาทางด้านราคาน้ำมันตกต่ำและเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้หลายๆคนกังวลถึงวผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเงินและธนาคาร นาย Umaru Ibrahim กรรมการผู้จัดการและ CEO แห่ง Negeria Deposit Insurance Corporation หรือ NDIC ได้กล่าวว่า

“ความไม่ปกติของที่เกิดขึ้นกับระบบธนาคารและการเงินทำให้บิทคอยกลายเป็นเหมือนกับผู้กู้ชาติ ผมเข้าใจดีถ้าหากผู้คนส่วนใหญ่เริ่มที่จะหันมาถือบิทคอยกันแล้ว”

อย่างที่เห็นในภาพด้านล่างนี้ ก่อนหน้านี้ในไนจีเรียแทบจะไม่มีใครพูดถึงบิทคอยมาก่อนเลยจนกระทั่งถึงเดือนมิถุนาคมที่ผ่านมา และสูงขึ้นเรื่อยๆ

อีกประเทศหนึ่งที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับไนจีเรีย แต่เสียหายมากกว่าคือเวเนซุเอลา เป็นประเทศที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อขั้นวิกฤติมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว โดยร้ายแรงถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเศรษฐกิจพังทลายย่อยยับในปีนี้ โดยคีย์เวิร์ดบิทคอยได้พุ่งขึ้นสูงประมาณหนึ่งตั้งแต่ปี 2013 แต่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อราวๆเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกเช่นกัน

ในขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านของเวเนซุเอลาอย่างบราซิลก็มีเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน กล่าวคือเป็นประเทศที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อถึง 9% ต่อปี ส่งผลให้ชาวบราซิลต้องดิ้นรนหาทางออกใหม่ๆ โดยมูลค่าตลาดการซื้อขายในบราซิลได้แซงตลาดทองไปแล้วในตอนนี้ อ้างอิงจากรายงาน

ความพยายามของอินเดียในการกำจัดธนบัตรใบใหญ่ๆออกไปเพื่อที่จะควบคุมปัญหาเงินเฟ้อในประเทศทำให้มูลค่าของบิทคอยเพิ่มขึ้นแบบมหาศาล ถึงอย่างไรก็ตามแต่ ความพยายามของรัฐบาลครั้งนี้อาจจะส่งผลที่น่าพอใจโดยทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงก็เป็นได้

การเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนในการอ่อนค่าเงินหยวนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้ประชาชนเริ่มหันมาหาบิทคอย โดยคีย์เวิร์ดการค้นหาคำว่าบิทคอยบน Baidu ก็พุ่งสูงขึ้นในเดือนนี้เช่นเดียวกัน โดยปัจจัยทั้งหมดรวมกันนี้ทำให้กราฟรายสัปดาห์เริ่มทำตัวเป็นรูปแก้วและหูแก้ว (Cup and handle)

สำหรับประเทศไทยที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเจอกฏหมายพรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่หลายๆคนเชื่อว่าจะมาริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน อาจส่งผลให้คนบางกลุ่มเริ่มมองหาการออมเงินรูปแบบใหม่ที่ไม่อยากให้รัฐบาลตรวจสอบได้ง่ายๆ ซึ่งก็คือบิทคอย โดยคีย์เวิดการค้นหาในคำว่าบิทคอยมีมาให้เห็นประมาณหนึ่งในช่วงสองปีที่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ร้อนแรงมากนักจะกระทั่งช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ผู้คนในประเทศไทยเริ่มตื่นตัว

นาย George Kikvadze รองประธานแห่งบริษัท Bitfury ได้ทวีตข้อความออกสื่อว่า

(แปล: ภายใน 24 ชั่วโมงนี้กับเงินอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์รวมกับกองทุน AUM เตรียมตัวซื้อบิทคอย 30,000-50,000 เหรียญ แต่ก่อนไม่เคยขาย ตอนนี้ก็จะไม่ขาย)

ดูเหมือนว่าบิทคอยกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่จุดสำคัญ ชื่อของมันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การบริหารประเทศที่ล้มเหลวอย่างอิตาลีที่เพิ่งจะออกมาประกาศการอุ้มตัวของธนาคาร ซึ่งบีบให้นักลงทุนต้องรีบหาทางป้องกันตัวก่อนจะล้มละลาย และขณะเดียวกันอาจจะเริ่มมีกลุ่มคนบางกลุ่มเริ่มจริงจังถึงขั้นนำบิทคอยมาใช้ในชีวิตประจำวันแล้วก็เป็นได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น