นักเทรดบิทคอยในจีนคือต้นเหตุที่ทำให้ตลาดเหลื่อมล้ำ นักลงทุนเตรียมรับความเสี่ยง

การเทรดบิทคอยในตลาดจีนเริ่มคึกคักขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะสร้างสภาพแวดล้อมในการเทรดที่เหลื่อมล้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

จีนเริ่มตื่นตัว

นาย Michael Vogel แห่ง Netcoins ได้กล่าวว่าพวกเรากำลังอยู่ในช่วงที่จีนกำลังตื่นตัว และยังอธิบายอีกว่าผู้คนเหล่านั้นเพิ่งจะรู้ถึงคุณค่าของบิทคอย และประโยชน์อันมหาศาลในการเก็บออมเพื่อเป็น safe haven ในจีน

“ตอนนี้บิทคอยไม่เพียงแต่เป็น safe haven เท่านั้น แต่มันยังเป็นเครื่องมีอที่มีประโยชน์ในหลายๆด้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการใช้จ่าย, การทำ smart contract, การโอนเงิน, การใช้เป็นสกุลเงิน, การใช้เป็นกรณีศึกษาทางด้านบล็อกเชน และอื่นๆอีกมากมาย” เขากล่าว

นาย Michael ยังได้ย้ำอีกว่าอาการเหลื่อมล้ำในตลาดซื้อขายเกิดขึ้นมาจากการเทรดในจีนที่มีจำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม การที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศที่มีขนาดประชากรเป็นจำนวนมากอย่างจีนและอินเดียถือเป็นเรื่องธรรมดา

“ในการค้าขายระหว่างชาติ ราคาบ้านและตลาดอื่นๆดูเหมือนว่าจะโดนผลกระทบจากเหตุการณ์ “ความเหลื่อมล้ำ” จากตลาดในจีนเหมือนๆกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่เรากำลังเริ่มเผชิญอยู่ตอนนี้เป็นตลาดบิทคอย ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เห็นประเทศอย่างจีนที่แซงหน้าหลายๆประเทศในเรื่องของอัตราการเริ่มปรับตัวเข้าหาบิทคอย”

มุมมองของการลงทุนที่แปลกประหลาด

นาย Simon Dixon หรือ CEO แห่ง BnkToTheFuture.com อธิบายถึงการที่วิธีการและมุมมองของการลุงทุนในจีนที่แตกต่างจากในประเทศตะวันตก โดยถ้าหากเป็นประเทศในตะวันตกส่วนใหญ่นั้น การลงทุนจะต้องทำผ่านผู้ให้คำแนะนำหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านลงทุน โดยพวกเขาเหล่านี้จะเป็นผู้ช่วยเหลือทางด้านการควบคุมและบริหารงบประมาณในการลงทุนทั้งหมด

“80 เปอร์เซนของตลาดหุ้นในบางประเทศเช่นสหรัฐฯและอังกฤษจะทำการซื้อขายโดยมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ แต่ในจีนนั้น 80% ของของตลาดหุ้นจะถูกทำการซื้อขายโดยตัดสินใจกันเองโดยอิสระ” กล่าวโดยนาย Simon

เขายังอธิบายอีกว่านักลงทุนอิสระชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและ ผลตอบแทนสูง ในขณะที่นักลงทุนที่ใช้ที่ปรึกษาจะชอบการลทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนต่ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบิทคอยถึงได้รับความนิยมในจีนเร็วกว่าในประเทศแถบตะวันตก

นาย Simon เชื่อว่าสถาบันทางการเงินในตะวันตกกำลังมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ และจะเข้ามาร่วมลงทุนการเทรดบิทคอยในจีนอีกด้วย

ในตอนท้าย เขาได้สรุปโดยชี้ว่าเรื่องแบบนี้ได้เกิดขึ้นมาตลอดในปี 2016 โดยเฉพาะในด้านความสนใจของตลาดการเงินที่มีต่อเทคโนโลยี บล็อกเชน และความสนใจนี้จะส่งผลให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในบิทคอยมากขึ้น ตราบใดที่รัฐบาลออกกฏมายมารองรับมันเพียงพอ

“นี่เป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของบิทคอยที่จะมาพร้อมกับความผันผวนในตลาดที่มากขึ้น เมื่อเม็ดเงินจากนักลงทุนในกลุ่มต่างๆทั่วโลกต่างก็หลั่งไหลเข้ามาหาบิทคอย ซึ่งในจุดๆนี้มันได้ถูกขับเคลื่อนโดยตลาดในจีน และกลุ่มนักพัฒนาที่มาจากตะวันตก”