ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเพิ่งจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เริ่มอ้าแขนรับบิทคอยแบบจริงจัง ก็มีบริษัทที่มากกว่า 10 บริษัทที่กำลังจะเตรียมตัวออกมาเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอย เพื่อรองรับอุปสงค์ที่กำลังมีมากขึ้นทุกวัน
อ้างอิงจาก Nikkei ดูเหมือนว่าในตอนนี้ตลาดบิทคอยในประเทศญี่ปุ่นกำลังเติบโตใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มีบริษัทราวๆมากกว่า 10 บริษัทที่อยากจะกระโดดเข้ามาทำธุรกิจผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนที่ว่านี้ เพราะเชื่อว่าให้ผลตอบแทนที่สูง
หากลองมาดูดีๆแล้ว ความสนใจในตัวบิทคอยที่ล้นหลามนี้เกิดขึ้นมาไม่นานหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาประกาศกฏหมายขึ้นทะเบียนบิทคอยให้ถูกกฏหมายนั่นเอง ซึ่งส่งผลให้มีทั้งนักเทรดและนักลงทุนต่างก็หลั่งไหลเข้ามาในญี่ปุ่น
โดยขณะนี้มีร้านค้าต่างๆมากมายทั่วญี่ปุ่นที่เริ่มปรับตัวตามกฎหมายใหม่ที่ว่านี้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีราวๆ 260,000 ร้านค้าที่เริ่มรับบิทคอยภายในสิ้นปีที่จะถึงนี้
อุตสาหกรรมที่ทำให้ถูกกฎหมายมักลงท้ายด้วยความไปได้สวย
ทางสำนักข่าว Nikei ได้ออกมารายงานว่ามีราวๆ 18 บริษัทที่กำลังเตรียมตัวขอใบอนุญาตเพื่อเตรียมเปิดธุรกิจ โดยได้อ้างอิง Japanese Cryptocurrency Business Association หรือองค์กรคริปโตเคอเรนซีแห่งประเทศญี่ปุ่น โดยลิสบริษัทเหล่านี้ได้รวมเอารายชื่อผู้ให้บริการเทรดบิทคอยอยู่ด้วย อย่างเช่น bitFlyer หรือผู้ให้บริการเทรดบิทคอยที่ใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางสำนักข่าวเปิดเผยเพียงแค่ว่ามีราวๆ 10 บริษัทที่เป็นน้องใหม่ เพิ่งจะก้าวเข้าวงการนี้ได้ไม่นาน
หนึ่งใน 18 บริษัทที่กำลังยื่นขอใบอนุญาตนั้นเป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านการธนาคารโดยมีคริปโตเคอเรนซีเป็นรากฐานที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยมีนามว่า SBI Group ซึ่งได้ทำการเปิดตัว SBI Virtual Currencies Co., Ltd., หรือผู้ให้บริการเว็บเทรดระหว่างเงินเยนกับเหรียญคริปโตอื่นๆ
ในรายงานยังได้กล่าวถึงบริษัทผู้ให้บริการทางด้านเว็บโฮสนามว่า GMO Internet Group ที่กำลังเตรียมเปิดให้บริการเว็บเทรดเหรียญคริปโตอีกด้วย อีกทั้งยังมี Money Partners Group หรือผู้ให้บริการเทรดเหรียญคริปโตแบบมีมาร์จินคล้ายๆเทรดฟอเร็กซ์ และบริษัท Kabu.com Securities ที่กำลังวางแผนจะเข้ามาในวงการนี้อีกเช่นกัน
กระนั้น ในรายงานไม่ได้กล่าวถึง 3 ยักษ์ใหญ่ธนาคารอย่าง MUFG, Mizuho และ SMBC โดยพวกเขาเหล่านี้เป็นนักลงทุนบนเว็บ bitFlyer หรือเว็บเทรดเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุด
“เหรียญ digital currencies นั้นยังถือว่าใช้กันค่อนข้างน้อยในญี่ปุ่น” รายงานโดย Nikkei “แต่มันสามารถที่จะทำให้การส่งเงินหากันถูกลงได้ในอนาคต”