การปรับปรุงโปรโตคอลของบิทคอยน์ (BIP) ใหม่ได้กระจายออกมาจากรายชื่ออีเมล์หลักซึงรวมถึงวีธีแก้ปัญหาเรื่อง scaling ของ Barry Silbert
และยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับ user-activated soft fork ของ BIP นับไม่ถ้วนในวันที่ 1 สิงหาคม และรวมถึงใน BIP148 ที่บอกว่าจะ Hard fork ให้ความจุของบล็อกกลายเป็น 2mb ในหกเดือนให้หลัง
“ข้อเสนอนี้ถูกเขียนภายใต้สมมติฐานว่าผู้ลงนามในข้อตกลงการ Scaling Consensus 2017 ที่มุ่งมั่นจะทำข้อตกลงและจะปรับปรุงไปตามที่อธิบาย”
จากบทนำของอีเมล์
ข้อเสนอของ Silbert สำหรับการแก้ไข scaling deadlock ที่ทำให้เกิด mounting criticism จากการประณีประนอมมากกว่าจะหาทางออกอย่างเบ็จเสร็จ
ถึงแม้ว่า Bitcoin.com และ minngpool จะเป็นของ Silbert นั้น นาย Roger Ver ผู้เสนอ Bitcoin Unlimited ก็คัดค้านการตัดสินใจของเขา
ผู้เขียน BIP นามว่า Calvin Rechner ก็ระมัดระวังไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างอภิปรายแผนงานล่าสุด
“ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับระยะเวลาในการติดตั้งหรือเวลาที่จะ Hard fork เป็นขอบเขตที่ไม่อยู่ในระหว่างการอภิปรายเบื้องต้นของข้อเสนอนี้”
เขากล่าว
ในขณะเดียวกันบนทวิตเตอร์ ผู้บริหารของ Bitmain และ ผู้สนับสนุน Bitcoin Unlimited Jihan Wu ยังคงวิพาก ยังคงวิพากษ์วิจารณ์การพัฒนา SegWit ในบิทคอนย์และบอกว่าค่าธรรมเนียมของเทคโนโลยีนี้ “ถูกจนไม่ยุติธรรม”
I’ve heard these claims made in the past; are there any in-depth explanations to which you could link?
— Jameson Lopp (@lopp) May 28, 2017
ตามข้อเสนอนี้บิทคอนย์อาจจะมี soft fork ใน 1 สิงหาคม ซึ่งผู้ใช้บิทคอนย์ทั่วโลกต้องรอดู
การทำ Fork ในวงการคริปโตเคอเรนซีคือการที่โปรเจคใดโปรเจคหนึ่งก็แล้วแต่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเกิดมีความเห็นต่างระหว่างทีมนักพัฒนาดั้งเดิมที่แยกตัวออกมาทำโปรเจ็คที่ใกล้เคียงกันออกมาแข่ง (เหมือนกับส้อมที่แตกแยกออกมาหลายแขนงเป็นซี่ๆ) อย่างเช่นตอนแรกๆที่มีบิทคอยน์ออกมา สักพักก็มีการ fork กันเกิดขึ้นออกมาเป็น lite coin เป็นต้น
การทำ Fork แยกออกเป็นสองลักษณะ แบบแรกคือ Soft fork คือการทำโปรเจคใหม่โดยที่โคดและสถาปัตยกรรมนั้นยังสามารถซัพพอทโปรเจคเก่าได้อยู่ ในขณะที่ Hard fork นั้นคือการทำโปรเจคใหม่โดยที่โคดและระบบรวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่ไม่ซัพพอร์ทของเก่าอีกต่อไป อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Fork ได้ที่นี่
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น