ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาชื่อดังอายุ 80 กว่าปีในกรุงเทพฯได้เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่เปิดรับ Bitcoin เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจ่ายเงิน
เริ่มต้นจากร้านเล็กๆในย่านเยาวราชเมื่อ 80 กว่าปีที่แล้ว ร้านลิ้มเหลาโหงวในตอนนี้ได้มีมากกว่า 6 สาขาแล้วในเมืองกรุงฯ โดยการเปิดตัวสาขาใหม่ ณ สยามสแควร์นั้นดูเหมือนจะมาพร้อมๆกับการต้อนรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Bitcoin ด้วย
นำโดยนายเตวิช บริบูรณ์ชัยศิริ หนุ่มไฟแรงอายุ 28 ปี หรือเป็นเถ้าแก่น้อยรุ่นที่สามของร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าวที่มองเห็นศักยภาพของเจ้าตัวเหรียญคริปโตดังกล่าวนี้
“….แม้ “ลิ้มเหล่าโหงว” จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่สร้างตำนานความอร่อยมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะปล่อยให้เทคโนโลยีวิ่งนำไป เพราะวันนี้คุณสามารถชำระค่าอาหารด้วย “บิทคอยน์” ผ่านระบบ “บล็อกเชน” (Blockchain) หรือสมุดบัญชีการโอนของบิทคอยน์ของคุณ” เป็นประโยคที่สามารถอ่านได้บนหน้าเว็บหลักของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง
โดยการประกาศนั้นถูกแชร์บนโซเชียลกว่า 4000 ครั้ง ทั้งบนเฟสบุคและทวิตเตอร์ เท่านั้นยังไม่พอ โพสดังกล่าวยังได้ลงเว็บบางกอกโพสอีกด้วย
การแพร่กระจาย: ข่าวดังกล่าวนี้ถูกปักหมุดอยู่บนหัวข้อเทคโนโลยีของเว็บบางกอกโพส โดยบทความนั้นยังได้อธิบายวิธีการใช้ Bitcoin เป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
โดยนายเตวิชนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับทางบางกอกโพสว่า
“ผมคิดว่าเหรียญคริปโตหรือสกุลเงินดิจิตอลนั้นจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญมากในอนาคต เจ้าเทคโนโลยีพวกนี้จะเปลี่ยนโฉมของธุรกรรมการเงินใหม่หมด”
นายเตวิชนั้นได้กล่าวถึงการเปิดรับ Bitcoin ของร้านว่าไม่มีความยากเลยแม้แต่น้อย โดยย้ำว่า “มันค่อนข้างง่ายที่จะติดตั้งระบบ และทำการจ่ายด้วย Bitcoin” ดูเหมือนว่าทางร้านนั้นจะไม่เปิดเผยชื่อของผู้ให้บริการติดตั้งระบบการจ่ายเงินด้วย Bitcoin โดยระบบดังกล่าวนี้จะแสดง QR โคดให้กับลูกค้า และจะออกบิลโดยแปลงเป็นเงินบาทให้อัตโนมัติ
ไม่มีดีเลย์: ว่าแต่ว่าปัญหาเรื่องความนานในการคอนเฟิร์มล่ะ? ดูเหมือนนายเตวิชนั้นจะไม่ได้มองมันว่าเป็นเรื่องใหญ่เท่าไรนัก
“การคอนเฟิร์มใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที แต่ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
การปรับตัวการใช้งาน Bitcoin ในประเทศไทยนั้นยังต่ำอยู่หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ข้อมูลจาก Bitcoin Map Thailandได้แสดงให้เห็นถึงร้านในประเทศไทยที่รับ Bitcoin ที่ยังมีเพียงแค่ 20 กว่าร้านเท่านั้น โดยมีทั้งร้านอาหาร และ โรงแรมที่รับ Bitcoin แบบโดยตรง โดยอ้างอิงจากทางทางนายเตวิชนั้น สัปดาห์แรกของการเปิดรับ Bitcoin มีเพียงลูกค้าที่ใช้จ่าย Bitcoin อยู่เพียงแค่ 10 8นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นก็ได้มีผู้ที่ให้ความสนใจอยากทดลองจ่ายด้วย Bitcoin เข้ามาใช้บริการที่ร้านอีกเป็นจำนวนมาก
ในปัจจุบันสถานะของ Bitcoin ในประเทศไทยนั้นยังค่อนข้างที่จะคลุมเครือและไม่แน่นอน ก่อนหน้านี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาประกาศแบน Bitcoin เมื่อปี 2013 แต่หลังจากนั้นก็ออกมาปลดแบนพร้อมกับออกมาเตือนว่าให้ระมัดระวังในการใช้ แม้มันจะไม่ผิดกฎหมายก็ตาม
เมื่อไม่นานมานี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมากล่าวว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นกำลังศึกษา Bitcoin อยู่ทำให้มีการคาดเดาว่าอาจจะมีโอกาสที่ทางแบงก์ชาตินั้นอาจจะออกกฎหมายมาเพื่อควบคุม Bitcoin เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ทำก็ได้ กระนั้น มันก็อาจจะมีผลกระทบในหลายๆด้านถ้าหากมันเป็นจริงขึ้นมา แต่หลักๆแล้วมันจะส่งผลดีในทางด้านการปรับตัวใช้ Bitcoin ในประเทศไทยที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น “ผมรู้ว่าทางแบงค์ชาติยังไม่ทำให้ Bitcoin ถูกกฎหมาย แต่มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายถ้าจะใช้มัน” กล่าวโดยนายเตวิช
เขาได้อธิบายเพิ่มว่า
“สาเหตุหลักๆที่ผมตัดสินใจเพิ่ม Bitcoin มาเป็นอีกช่องทางชำระเงินนั้นเป็นเพราะผมอยากจะบอกทุกๆคนว่ามันใช้งานได้จริงๆนะ ผมหวังว่าร้านอาหารและร้านค้าอื่นๆจะหันมาลองใช้มันเหมือนกัน”
ที่มาภาพจากบางกอกโพส
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น