<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักแฮค Bitcoin สาย White hat ช่วยตำรวจ FBI ไขคดีฆาตกรรม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักแฮคเกอร์สาย white hat (ผู้ที่แฮคข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ที่ดี) ผู้หนึ่งช่วยเหลือ FBI ในการไขคดีฆาตกรรม

โดยนายผู้นี้มีชื่อว่า Chris Monteiro เขาเป็นนักวิจัย Bitcoin อิสระและยังเป็นนักแฮคสายธรรมะ เขาได้เจาะเข้าไปในฐานข้อมูลของ dark web (เว็บมืด หรือ deep web ที่อยู่ลึกกว่าเว็บธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถใช้เว็บบราวเซอร์ธรรมดาเปิดเข้าไปดูได้) เว็บหนึ่งที่ให้บริการด้านนักฆ่าหรือมือปืน และเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ตำรวจ โดยข้อมูลที่เขาเจาะเข้าไปได้นั้นเชื่อมโยงไปถึงเว็บไซต์ธรรมดาเว็บหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม ที่ภายหลังคดีดังกล่าวสามารถถูกไขได้ในที่สุด ซึ่งคดีที่ว่านี้คือการฆ่าตกรรมของนาง Amy Allwine อ้างอิงจาก NASDAQ

ฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม?

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นาง Allwine อายุ 47 ปีถูกพบเป็นศพอยู่ในบ้านของเธอในเมือง Cottage Grove รัฐ Minnesota ในขณะที่สามีของเธอนามว่า Stephen Carl Allwine กำลังพยายามที่จะอำพรางคดีให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการวางปืนไว้ข้างๆข้อศอกของเธอ โดยการสืบสวนของตำรวจต่อมาได้พบว่ามันเป็นการฆาตกรรม

ดังนั้น เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา นาย Stephen Allwine ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่นจากหลักฐานที่หามาได้

Dark web ทำให้นักสืบสามารถหาฆาตกรตัวจริงได้

ในขณะที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมไปแล้วนั้น อาจกล่าวได้ว่าคดีของนาง Allwine จะไม่สามารถไขได้อย่างสำเร็จเลยถ้าปราศจากข้อมูลจาก “bRpsd” ที่ถูกสานต่อโดยนาย Monteiro ในการประสานงานกับตำรวจ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว “bRpsd” นั้นได้ทำการเจาะฐานข้อมูลของเว็บบน dark net เว็บหนึ่งที่ให้บริการนักฆ่าและมือปืนนามว่า Besa Mafia

Besa Mafia นั้นให้บริการสังหารเป้าหมายโดยมีค่าบริการตั้งแต่ 5,000 ดอลลาร์ไปจนถึง 200,000 ดอลลาร์ โดยหลังจากการแฮคในครั้งนั้น เขาได้ทำการ leak ข้อมูลและอัพโหลดขึ้นไปยังเว็บธรรมดาเว็บหนึ่งจนส่งผลให้ทางตำรวจสามารถใช้หลักฐานดังกล่าวมามัดตัวนาย Allwine ได้ โดยทางตามรวจได้สืบค้นพบว่านาย Stephen Allwine ได้เริ่มใช้ dark web ตั้งแต่เมื่อปี 2014 ซึ่งเขาใช้ username ว่า “dogdaygod” ที่ภายหลังเกี่ยวโยงกับอีเมล์ของเขา [email protected]

โดยภายหลังจากการตรวจสอบ data ที่แฮคมาได้นั้น ทางนักสืบได้ค้นพบอีเมล์ของนาย Allwine บนลิสลูกค้าของ Besa Mafia

รายงานอาชญากรรมได้แสดงให้เห็นว่านาย Allwine จะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 10,000-15,000 ดอลลาร์ให้กับนักฆ่าที่ถูกจ้างมาสังหารภรรยาของเขา

แต่เรื่องดังกล่าวนั้นกลายเป็นมาหักมุมในตอนหลัง เมื่อมีการตรวจพบว่าเว็บ Besa Mafia ดังกล่าวนั้นเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแค่หลอกเอา Bitcoin จากเหยื่อที่มาใช้บริการ และไม่มีการจ้างวานนักฆ่ากันเกิดขึ้น

สำหรับเคสของนาย Allwine นั้น เขาได้โอน Bitcoin ไปให้ Besa Mafia จนต่อมาในภายหลังพวกเขาบอกนาย Allwine ว่านักฆ่านั้นถูกตำรวจจับไปขังคุกแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม นักสืบได้ตรวจพบว่าไม่มีใครถูกจับไปขังคุกในรัฐ Minneota ในช่วงเวลาดังกล่าว และตั้งข้อสงสัยว่านาย Allwine เป็นคนลงมือฆ่าเอง

โดยภายหลังอาจกล่าวได้ว่าการเจาะฐานข้อมูลของเว็บนั้นทำให้คดีฆาตกรรมในครั้งนี้จบลงด้วยการจับกุมตัวคนร้ายได้ถูกคน ภายหลังศาลเขต Washington ได้ตัดสินนาย Allwine ว่ามีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนในวันที่ 24 มีนาคม 2017

มากไปกว่านั้น ทางตำรวจยังได้พบสารเสพย์ติดชื่อว่า scopolamine ในร่างกายของนาย Allwine เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อสืบแล้วนั้น พบว่านาย Allwine เป็นผู้สั่งซื้อบน dark web แห่งหนึ่ง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น