เคยมั้ยเวลาที่คุณเปิด NIceHash แล้วเจอประโยตที่บอกว่า Generate DAG เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมการ์ดจอที่ ขุด Ethereum โดยใช้อัลกอริทึ่ม Ethash ถึงต้องมี Memory อย่างน้อย 2Gb ขึ้นไป ซึ่งคำตอบของมันคือขนาดของ DAG เนี่ยแหละ
ค่า DAG คืออะไร
DAG นั้นย่อมาจาก Directed Acyclic Graph ซึ่งส่วนนึงของการคำนวน Proof of Work Algorithm ของ Ethash
ซึ่งในทางคณิตศาสตร์ DAG คือ direct graph ที่ไม่มี direct cycle โดยมันจะประกอบด้วยจุดและเส้นโดยแต่ละเส้นจะมีที่มาจากจุดก่อนหน้า ซึ่งมันจะไม่มีทางที่เส้นนั้นจะวนกลับไปสู่จุดเดิม ซึ่งสำหรับ Ethash นั้น DAG จะถูกเก็บในรูปของอาเรย์ uint32s ที่มีมิติ n × 16 โดย n เป็นตัวเลขโดยเริ่มจาก 16777186 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละ row โดย DAG จะถูกเก็บอยู่ในรูปของไฟล์ ที่เข้ารหัสโดย little-endian
แล้วมันมีผลต่อการขุดยังไงหละ?
เนื่องจากไฟล์ DAG นั้นจะเป็นไฟล์ที่ miner ทุกคนจะต้อง Process ซึ่งไฟล์นี้จะถูกประมวลผลโดย GPU Memory ซึ่งในตอนเริ่มต้นไฟล์ DAG มีขนาดเพียง 1 GB เท่านั้นแต่มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยทุกๆ 30,000 Block หรือประมาณ 100 ชั่วโมง ไฟล์ DAG จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นโดยมันจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.73 เท่าต่อปี
- กลางเดือน ตุลา 2016 ไฟล์จะมีขนาดเกินกว่า 2 GB
- กลางเดือน เมษายน 2018 ไฟล์จะมีขนาดเกินกว่า 3 GB
- กลางเดือน กันยายน 2019 ไฟล์จะมีขนาดเกินกว่า 4 GB
นั้นหมายความว่าในเดือนเมษายนปี 2018 GPU ที่มี Memory 3 GB จะไม่สามารถขุด Ethereum ได้อีกต่อไป แต่หากเป็นไปตามโร้ดแมพที่ตั้งไว้ของ Ethereum เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องห่วงเลยก็ได้เพราะตามกำหนดการ Ethereum มีแผนจะเปลี่ยนเป็น Proof of Streak ในต้นปีหน้า แต่มันอาจจะมีผลกับเงินสกุลอื่นๆที่ยังใช้ Proof of work กับ อัลกอริทึม Ethash เช่น ETC Music EXP ซึ่งขนาดของ DAG ต่างกันออกไปเช่นกัน ซึ่งถ้าการ์ดจอของคุณมี Memory 4GB หรือ 8GB มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเลย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น