เจ้าของ Mt Gox ให้การปฏิเสธข้อกล่าวในคดีขโมย Bitcoin
นาย Mark Karpeles หรือ CEO ของ Mt Got ซึ่งถ้าหลายๆคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการ Bitcoin มาเป็นเวลานานจะไม่มีวันลืมคดีอันน่าฉงนนี้ลงไป โดยก่อนหน้านี้ Mt Gox คือเว็บเทรด Bitcoin ที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก แต่ก็ต้องปิดตัวลงไปเพราะเกิดการขโมย Bitcoin กันขึ้นจากภายใน จึงทำให้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากต้องมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
โดยอดีต CEO ผู้นี้ไปขึ้นศาลใกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นตามนัดเมื่อวานนี้ และให้การปฏิเสธถึงข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ขโมย Bitcoin ของลูกค้าที่เข้าไปเทรดและปิดตัวเว็บ Mt Gox อ้างอิงจาก Japan Times
โดยข้อกล่าวหาบอกว่านาย Mark Karpeles ขโมย Bitcoin มูลค่า 341 ล้านเยนจากลูกค้าของเขามาเข้าบัญชีตัวเองในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคมปี 2013 หลังจากนั้นเขาได้ออกมาประกาศให้การปฏิเสธเป็นภาษาญี่ปุ่น โดยบอกว่า
“ผมสัญญากับพระเจ้าเลย ว่าผมไม่ผิด”
โดยก่อนหน้าการขึ้นศาลครั้งนี้ เขาอ้างว่า “การโยกย้ายทุน” นั้นอันที่จริงแล้วตกอยู่ในสโคปของรายได้ของ Mt Gox ไม่ใช่การขโมยจากลูกค้าแต่อย่างใด
ซึ่งนาย Mark ยืนยันว่าการสูญเสีย Bitcoin จำนวน 750,000 BTC นั้นเกิดจากการถูกแฮค
เขากล่าวในศาลว่า
“การหายตัวไปของ Bitcoin นั้นเป็นเพราะว่าถูกคนภายนอกแฮคออกไป”
โดยอัยการที่ตั้งข้อกล่าวหากล่าวว่าจำนวนเงิน 315 ล้านเยนจาก 341 ล้านเยนนที่ถูกขโมยไปนั้น ถูกนำไปซื้อกิจการผู้ผลิตเครื่องปรินท์ 3 มิติ และอีก 6 ล้านเยนหรือราวๆ 52,000 ดอลลาร์ถูกนำไปซื้อเตียงสุดหรูส่วนตัวของนาย Mark
นาย Mark ยังให้การเพิ่มว่า
“ผมขอแสดงความเสียใจต่อนักลงทุนทุกคนที่ต้องมาล้มละลายเพราะ Mt Gox”
จากนั้นทางผู้พิพากษาทาเคชิได้ถามถึงอาชีพที่นาย Mark ทำอยู่ และเขาอ้างว่าเขาเป็นแค่ วิศวะกรด้าน IT หลังจากการล่มสลายของ Mt Gox
“เนื่องด้วยการที่ผมเป็นผู้รับผิดชอบของ Mt Gox ดังนั้นผมจึงต้องหาวิธีนำ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปกลับมาให้ได้ และต้องตรวจดูว่ามันหายไปไหน แต่จุดประสงค์ของการขึ้นศาลครั้งนี้ไม่ใช่การหาที่มาของการ้มละลาย”
คดีของ Mt Gox นั้นถือจุดสำคัญจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin เลยก็ว่าได้ เพราะคดีดังกล่าวนี้ได้ผลักดันประเทศญี่ปุ่นให้กลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกของโลกที่ออกกฎหมายเงินดิจิตอลออกมาเพื่อควบคุมและป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดซ้ำสอง
สำหรับนาย Mark นั้น ถ้าหากทางศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริง เขาจะต้องถูกจำคุกทั้งหมด 5 ปี หรือถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 500,000 เยน (ราวๆ 4,000 ดอลลาร์)
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น