ผู้ใช้งาน Bitcoin หลายๆคนในกลุ่มกำลังต่อต้านแนวคิดของการ centralize หรือการรวมจุดศูนย์กลางเพื่อให้คนบางคนสามารถควบคุม Bitcoin ได้เบ็ดเสร็จ
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนบางกลุ่มจะพัฒนาข้อเสนอที่ออกมาโต้แย้งการ scaling ที่มีรูปแบบการ centralized ดังกล่าวนั้น
และหลายๆคนก็เชื่อว่ามันคงไม่มีผู้ต่อต้านฝ่ายไหนที่ค้านหัวชนฝาเท่า SegWit2x อีกแล้ว
pool ขุด Bitcoin ส่วนใหญ่ได้รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นเพื่อติดตั้ง SegWit2x ด้วยกำลังที่พวกเขามีภายในสิ้นเดือนนี้ โดยจะทำการติดตั้งโคดดังกล่าวที่ใครๆก็รอมานานนามว่า Segregated Witness (SegWit) แบบเพิ่มขนาดบล็อกที่จะมาช่วยแก้ปัญหาการ scaling แบบที่ทุกๆคนคาดหวัง กระนั้น การติดตั้งดังกล่าวจะทำให้ Bitcoin ต้องเกิดการ hard fork อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ทว่า ก็ยังมีผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เชื่อ และตามแนวคิดของ pool ขุด Bitcoin เหล่านั้น
ด้วยความที่พวกเขาไม่ไว้ใจ Pool ขุดเหล่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มขาใหญ่ที่คุมเปอร์เซนต์การตลาดของ Bitcoin ทั้งหลายเหล่านั้น ส่งผลให้พวกเขาต้องยื่นข้อเสนออีกข้อนามว่า BIP 148 (UASF) ที่จะมีการติดตั้งวันที่ 1 สิงหาคมนี้
โดยถ้าหากทางกลุ่ม pool ขุด เหล่านั้นตัดสินใจที่จะติดตั้ง SegWit ภายในสิ้นเดือนนี้ ผู้สนับสนุน UASF อาจจะต้องล้มเลิกแนวคิดเรื่องการติดตั้ง BIP 148 ดังกล่าว แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจถึงท่าทีของ pool ขุดเหล่านั้นอยู่ดี
“เป็นที่น่าเสียดาย ที่มีกลุ่มนักขุดบางคนที่มีชื่อเสียงทางด้านการปั่นเครือข่าย Bitcoin ดังนั้นไอเดียเรื่อง SegWit2x ของพวกเขาจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าไว้วางใจ” กล่าวโดยนาย Ragnar Lifthrasir หรือเจ้าของบริษัทด้าน Blockchain แห่งหนึ่ง และผู้สนับสนุน BIP 148
ข้อเสนอ BIP 148 นั้นคือการ “ตามหาผู้ที่สนับสนุน SegWit และจะทำการอัพเกรด node ของพวกเขาให้กลายเป็น SegWit” ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้รัน node อย่าง SegWit แบบดั้งเดิม แต่ไปรันอย่างอื่น (เช่น SegWit2x) ก็จะทำให้ไม่สามารถเข้าพวกได้ และ Bitcoin ที่มีอยู่ก็จะกลายเป็นเวอร์ชันอื่นทันที
กระนั้น การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ค่อนข้างที่จะน่าสนใจพอสมควร เนื่องจากว่าความนิยมของ SegWit2x ในปัจจุบันนั้นมีสูงมาก รวมถึงการสัญญาของทาง pool ขุด Bitcoin หลายๆพูลที่บอกว่าจะเปิดใช้ SegWit ก่อนเดือนสิงหาคมก็มีเช่นกัน นาย Miłosz Kwiatkowski หรือผู้ดูแล GitHub ของ UASF นั้นมีแนวคิดที่เหมือนกับของนาย Lifthrasir โดยเขากล่าวว่า
“น่าจะเป็นเพราะมีพวกกลุ่มนักขุดบางคนที่ไม่เคยทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือมาก่อนเลย และก็ยังมีบางคนที่พยายามจะโจมตีเครือข่ายของ Bitcoin ในอนาคต”
นาย Kwiatkowski ได้กล่าวเพิ่มว่า ผู้ใช้งาน Bitcoin ต้องการที่จะรู้สึกถึงความ “ปลอดภัย” แต่เจ้าพวกกลุ่มนักขุดพวกนั้นไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่พวกเขายื่นข้อเสนอ SegWit2x มาแล้ว
เครื่องมือทางจิตวิทยา
การไม่ไว้วางใจนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เพียงแค่สาเหตุเดียวที่ผู้ใช้งานไม่สนับสนุน BIP 148
บางคนเชื่อว่าการเปิดใช้ UASF นั้นอาจจะสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ pool ขุด Bitcoin ทำไปเลยก็ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอัพเกรดระบบตามหรือไม่
นาย Lifthrasir ได้อ้างอิงถึง Litecoin เป็นตัวอย่าง โดยกล่าวถึงความสามัคคีของ pool นักขุด Litecoin ที่สามารถนำเอา SegWit มาใช้งานได้ในท้ายสุด เขาเชื่อว่าทางกลุ่มนักขุด Litecoin เหล่านั้นทำไปเพราะเขามองเห็นผลประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากพวกเขาได้เห็นการประท้วงต่อต้าน UASF ในกลุ่ม เพราะคิดว่าการ soft fork ตัวนี้จะไปลดอิทธิพลของนักขุดลง
“สำหรับผมแล้ว SegWit2x นั้นก็เหมือนกับ “กลุ่มโต๊ะกลม” ของ Litecoin ซึ่งถือเป็นการที่นักขุดจะต้องรีบเปิดใช้ SegWit ก่อนที่กลุ่มผู้ใช้งานจะทำแทนพวกเขา” กล่าวโดย Lifthrasir
เขาเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ก็กำลังเกิดขึ้นกับ Bitcoin เช่นกัน
“BIP 148 นั้นกำลังประสบความสำเร็จแล้วในสองแง่ อย่างแรกคืออัตราการตอบรับการติดตั้ง SegWit นั้นถือเป็นอุปสรรคของ BIP 148” เขากล่าว
hashrate ของ SegWit แบบดั้งเดิมนั้นลดลงไปราวๆ 30% ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ผลการค้นหาของ BIP 148 ได้มองเห็นถึงอัตราความสนใจในตัว SegWit ที่เพิ่มขึ้นถึง 45%
แม้ว่า Lifthrasir นั้นจะไม่สามารถมองข้ามการสนับสนุน SegWit2x ของทางกลุ่มนักขุดได้ แต่เขาเชื่อว่ายังไงทางกลุ่มนักขุดเหล่านั้นจะต้องลงมือทำมันแน่ๆ เพราะมันถือเป็นผลประโยชน์ของพวกเขาล้วนๆ
ถ้าหากเครือข่ายของ Bitcoin นั้นไม่มีการสนับสนุน BIP 148 ที่เพียงพอแล้วละก็ Bitcoin อาจจะต้องแตกแยกกลายเป็นสองเหรียญ
หลายๆคนเริ่มบอยคอต
เว็บ CoinDesk ที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน SegWit2x ได้ออกมาเขียนข่าวโจมตี BIP 148 โดยกล่าวว่า BIP 148 นั้นมี “ความขัดแย้งสูง”
โดยชี้ให้เห็นว่าทางกลุมนักพัฒนาหลักของ Bitcoin (Bitcoin Core) นั้นแม้ว่าจะสนับสนุนการเปิดใช้ SegWit แบบดั้งเดิมนั้น แต่วิธีการบังคับผู้ใช้งานด้วย BIP 148 ทำให้ผู้ใช้งาน Bitcoin หลายๆคนไม่ค่อยชอบตรงจุดนี้
โดย CoinDesk ยังได้รายงานว่า แม้แต่นักพัฒนาบางคนที่ทำงานบ่อยที่สุดก็ไม่ชอบ BIP 148 และบอกว่านาย Alex Morcos หรือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Chaincode รวมถึงนาย Greg Maxwell หรือ CTO ของ Blockstream เป็นพวกคู่แข่งที่ดีแต่ปาก
แม้ว่าเดดไลน์ของทั้ง BIP 148 และ SegWit2x นั้นจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่มันก็ยังมีตัวเลือกในระยะยาวอื่นที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาการโอนช้าของ Bitcoin นี้เช่นกัน ซึ่งข้อดีก็คือมันไม่ยุ่งยากมาก เพราะไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับทาง pool ขุด ส่วนข้อเสียก็คือมันต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเปิดใช้ได้
กระนั้น แม้ว่าจะมีการแยกตัวออกเป็นสองฝ่าย แต่นักพัฒนาบางคนรวมถึงผู้ใช้งานกำลังวางแผนที่จะเดินหน้าผลักดันให้มีการเปิดใช้ BIP 148 ภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยหากมันเป็นเช่นนี้ มันก็ดูเหมือนอาจจะเป็นการผลักดันจากผู้ใช้งานโดยตรงมากกว่า โดยเฉพาะผู้ใช้งานอย่าง Rodolfo Novak หรือ CEO และผู้ก่อตั้งร่วมของ Coinkite รวมไปถึง Damian Mee หรือนักพัฒนาที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวมาแล้วตั้งแต่ต้น
นาย Lifthrasir สรุปตอนท้ายว่า
“BIP 148 นั้นเป็นมากกว่าการช่วยเปิดใช้ SegWit เพราะมันเหมือนกับเป็นการเปิดใช้ความเป็นอธิปไตยของผู้ใช้ Bitcoin ทุกคน”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น