เมื่อกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาในประเทศออสเตรเลียกำลังวางการแข่งขันทางการเมืองลง และหันมาเคลื่อนไหวในทิศทางที่หลายๆคนก็ต้องเซอไพรส์ ด้วยการออกมาเรียกร้องให้ธนาคารสำรอง (Reserve Bank) ออกมาสนับสนุน Bitcoin ให้เป็นสกุลเงินแบบเป็นทางการ
อ้างอิงจากนาย Sam Dastyari หรือสมาชิกวุฒิสภาจากพรรค Labor และนาง Jane Hume หรือสมาชิกวุฒิสภาจากพรรค Liberal โดยทั้งคู่กล่าวว่าถ้าทางธนาคารสำรองแห่งออสเตรเลียไม่หันหน้าเข้าหาสกุลเงินดิจิตอลนั้น อาจทำให้ประเทศออสเตรเลียเสี่ยงต่อการเป็นประเทศที่รั้งท้ายด้านนี้ อ้างอิงจากสำนักข่าว The Sydney Morning Herald
โดยเขาทั้งสองคนยังได้ก่อตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า Parliamentary Friends of Blockchain เพื่อออกมาเคลื่อนไหวให้ทางธนาคารกลางหันมาตอบรับคำขอของพวกเขาอีกด้วย
ซึ่งการเรียกร้องของพวกเขาเริ่มมีมาเมื่อราคาของ Bitcoin ทะลุระดับ 3,400 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และด้วยความที่เหรียญดิจิตอลดังกล่าวนั้นมีมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นรวมถึงการมีห้างและร้านหลายๆร้านที่เริ่มรับ Bitcoin เป็นช่องทางการจ่ายเงินแล้ว ทำให้มันกลายเป็นที่ถูกจับตามองโดยรัฐบาลและผู้ออกกฎหมายในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาสองท่านนี้ที่ดูเหมือนว่าจะอยากให้ธนาคารกลางนั้นสร้างเหรียญดิจิตอลของตัวเองขึ้นมาใช้ในตลาดเสียเอง
ในปีนี้เอง ทางรัฐบาลออสเตรเลียแห่งรัฐวิคตอเรียได้ออกมาประกาศแล้วว่าพวกเขาได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Australian Digital Currency and Commerce Association(ADCCA) เพื่อทำการศึกษาและค้นคว้าการนำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ในเชิงพาณิชย์
นาย Philip Dalidakis หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกี่ยวกับธุรกิจขนาดเล็ก, นวัตกรรมและการแลกเปลี่ยน ได้กล่าวว่าการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรดังกล่าวนั้นจะทำให้ทางรัฐบาลมีความเข้าใจในตัวเทคโนโลยีดังกล่าวมากขึ้น
เขาได้กล่าวว่า
“การเป็นสมาชิกในครั้งนี้จำทำให้สตาร์ทอัพด้าน FinTech และนักลงทุนของเรามีโอกาสมากขึ้นที่จะประสบความสำเร็จ”
นาย Ronald Tucker หรือประธานของ ADCCA กล่าวว่าสกุลเงินดิจิตอลที่มีรัฐบาลมาช่วยหนุนหลังนั้นจะสามารถลดระยะเวลาการทำธุรกรรมได้
“มันจะเป็นความฝันของนักออดิตเลยแหละ เพราะคุณจะสามารถที่จะตรวจธุรกรรมได้ทุกๆธุรกรรมที่วิ่งไปมาบนบล็อกเชน”
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ มีรายงานว่าทางธนาคารสำรองของออสเตรเลียกำลังศึกษาเทคโนโลยี Blockchain สำหรับระบบการเงิน โดยอ้างอิงจากรายงานนั้น ทางธนาคารกลางได้เน้นย้ำว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นกำลัง “ถูกจับตาดูอย่างกระชั้นชิด”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น