การเทขายครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่แรงที่สุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ มูลค่าตลาดรวมของเหรียญคริปโตทั้งมดอยู่ที่ 166 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงลงมามากกว่า 7% จากจุดสูงสุดที่ 180 พันล้านดอลลาร์ในเมื่อคืนที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ ราคาของ Bitcoin ทะลุผ่านจุดราคา 5,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตามคำทำนายของผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ได้กล่าวไว
กราฟราคาจาก CoinDesk
การพุ่งลงของราคานั้นดูเหมือนว่าจะรุนแรงมาก โดยวิ่งลงจากจุดที่ 5,013.91 ดอลลาร์ลงมาถึงจุดต่ำสุดในรอบเดือนที่ 4619.97 ดอลลาร์ ซึ่งอัตราการร่วงของราคามีมากกว่า 250 ดอลลาร์ โดยสาเหตุหลักๆของการร่วงนั้นหลายๆคนเชื่อว่าเกิดจากปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลให้คนเทขายที่จุดราคายุทธศาสตร์ (กล่าวง่ายๆคือทุกคนตั้งเป้าหมายในการเทขายไว้ร่วมกัน) โดยก่อนหน้านีทาง Goldman Sachs ก็เคยออกมาทำนายไว้เช่นกันว่าราคาของ Bitcoin จะร่วงลงมาอย่างหนักหลังจากที่แตะ 5,000 ดอลลาร์
โดยรวมแล้ว การเทขายในครั้งนี้ถือเป็นการเทขายที่มากกว่าครั้งของเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมเสียอีก ซึ่งในตอนนั้นมูลค่าตลาดรวมร่วงลงมาจาก 72 พันล้านมาสู่ 63 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การร่วงในครั้งนั้นต้องใช้เวลาถึงหลายวัน และราคานั้นร่วงลงไปถึง 25% ซึ่งสาเหตุในตอนนั้นเกิดจากความไม่แน่นอนของนักพัฒนา Bitcoin นั่นเอง
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่านักเทรดส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นสองส่วน และพวกเขามองการวิเคราะห์ตลาดที่ต่างกัน
ส่วนแรกนั้น บางคนเชื่อว่ามันยังเร็วไปที่จะกล่าวว่านี่คือ “จุดสูงสุด” ของ Bitcoin เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักลงทุนกระเป๋าหนาได้เริ่มกระโดดเข้ามาลงทุนในตลาดที่ว่านี้
ซึ่งบางคนในกลุ่มแรกนั้นถึงกับออกมาบอกว่านี่คือ “กับดักหมี” (การหลอกให้ผู้ที่คิดว่าราคาจะลงตายใจ) ที่อาจจะมีการพุ่งขึ้นของราคาในอนาคตหลังจากนี้
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
“เนื่องจากว่า Bitcoin นั้นได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลักหลายๆแขนง ทำให้คนธรรมดาทั่วไปเริ่มที่จะหันเข้ามาหาตลาดดังกล่าวนี้แล้ว” กล่าวโดยนาย Bram Ceelen หรือผู้ก่อตั้งของโบรคเกอร์ตลาดเหรียญคริปโตนามว่า AnyCoin
ทว่าในกลุ่มที่สองนั้นมองว่าการร่วงของราคาในครั้งนี้อาจจะยังไปได้อีกเหมือนกับในช่วงกรกฎาคมและพฤษภาคม
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น