หนึ่งในแผนข้อเสนอช่วยแก้ปัญหาการ scaling ของ Bitcoin ที่เป็นข้อถกเถียงมานานนามว่า SegWit2 ต้องถูกปิดฉากไปแล้วเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาจากการออกมาประกาศของกลุ่มผู้นำหลักของโครงการ ภายหลังจากนั้นดูเหมือนว่าตลาดของ Bitcoin และ altcoin จะได้รับผลกระทบจากการประกาศมากพอสมควร
ตลาด Bitcoin ผันผวนอย่างหนัก
ช่วงระหว่างการประกาศนั้น ราคาของ Bitcoin ได้พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์แห่งใหม่ที่ 7899.9 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงอย่างรุนแรงทะลุระดับเจ็ดพันไปแตะ 6977.4 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่นาทีถัดมา และกลับเข้ามาในระดับ 7,300 ดอลลาร์และคงตัวอยู่ อ้างอิงจาก Bitfinex หรือตลาดที่มีโวลลุ่มมากที่สุดในโลกในขณะนี้
มันอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะน่าเซอไพรส์สำหรับใครหลายๆคน เนื่องจากก่อนหน้านี้ข้อเสนอ SegWit2x เคยได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่ม community ของนักพัฒนาและผู้ใช้งาน Bitcoin อย่างมาก ยกเว้นกลุ่มนักขุดที่ดูเหมือนจะชอบมันเป็นพิเศษ
ข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นเกิดเป็นข้อถกเถียงที่มีขึ้นในกลุ่มอย่างไม่หยุดจนทำให้มันแตกแยกออกมาเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่ไม่สนับสนุน แต่ถึงกระนั้นทางทีมนักพัฒนา SegWit2x ก็ยังคงเดินหน้าเต็มกำลัง ก่อนที่จะออกมาประกาศยกเลิกอย่างกระทันหัน
เหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในระหว่างที่ราคาของ Bitcoin กำลังอยู่ในระดับจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์พอดี ซึ่งบางทีนี่อาจจะเป็นจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจมากๆถึงการที่พวกเขาออกมาประกาศยกเลิกการ hard fork ในช่วงเวลาดังกล่าว
ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คงจะเป็นตลาดฟิวเจอร์ของเหรียญ SegWit2x หรือ B2X ที่มีการเปิดให้ซื้อขายบนเว็บ HitBTC ซึ่งร่วงลงมาจากประมาณ 1,290 ดอลลาร์ ไปแตะจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ที่ 154 ดอลลาร์ภายในระยะเวลาเพียงแค 20-30 นาทีเท่านั้น หลังจากการประกาศยกเลิกการ hard fork มีขึ้น
ตลาด Altcoin พุ่ง
กระนั้น ก็ไม่ได้มีแค่ตลาด Bitcoin ที่เกิดความผันผวนต้อนรับข่าวที่ว่านี้ แต่ยังมีตลาดเหรียญ Altcoin อื่นๆที่มีการ “พุ่ง” ขึ้นสวนทางกับราคาของ Bitcoin ในช่วงที่เกิดการแย่งกันเทขาย โดยเฉพาะเหรียญ OmiseGO หรือเหรียญของคนไทยที่ราคาขึ้นไปแตะ 255 บาทเมื่อคืนที่ผ่านมาบนตลาด Bx และ 263 บาทบนตลาด TDAX จากระดับราคาที่ 210 บาท
นอกจากนี้ยังมีเหรียญอื่นๆอีกอีกมากมายในอันดับท็อป 100 ที่กลายเป็น “สีเขียว” เกือบทั้งกระดาน กล่าวคือมีราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากการประกาศยกเลิก hard fork นั่นเอง อ้างอิงจาก Coinmarketcap
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
หลักๆเกิดขึ้นจากนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ก่อนหน้านี้เคยสะสมเหรียญ Bitcoin ไว้เพื่อรอการ hard fork ของ SegWit2x เพราะคาดว่าน่าจะได้เหรียญใหม่ขึ้นมาแบบฟรีๆเหมือนกับคราวของ Bitcoin Cash และ Bitcoin Gold เพื่อที่จะได้นำมาขายทอดตลาดได้ แต่กลับต้องขายทิ้งไปเมื่อรู้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว (อย่างน้อยก็เร็วๆนี้) นั่นจึงส่งผลให้โวลลุ่มของตลาด Bitcoin ไหลกระจายไปสู่เหรียญ altcoin อื่นๆนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการ hard fork เกิดขึ้นแล้ว แต่ราคาของ Bitcoin ก็ยังคงตัวอยู่ในระดับ 7400 ดอลลาร์เอาไว้ได้ในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น