<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Vitalik เผยแผนโรดแมปสำหรับ Ethereum 2.0 ในไต้หวัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Vitalik Buterin หรือบิดาแห่ง Ethereum ได้เผยแผนการสำหรับการพัฒนาระบบ Blockchain ของเหรียญดังกล่าวในการประชุมที่เมืองไทเป เกาะใต้หวัน โดยหลักๆแล้วจะเป็นการมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ Ethereum กำลังพบเจอ และรวมถึงทิศทางอนาคตของเหรียญดังกล่าวด้วย โดยนาย Vitalik ได้ทำการพูดคุยถึงรายละเอียดของตัวอัพเดตตัวใหม่นี้อย่างเฉพาะเจาะจงอีกด้วย

โดยนาย Vitalik ได้เริ่มต้นการพูดคุยด้วยสำนวนที่น่าสนใจ เขากล่าวว่า

“ตัวที่จะมาฆ่า Ethereum นั้นก็คือ Ethereum, Ethereum แห่งประเทศจีนนั้นคือ Ethereum, Ethereum สำหรับไต้หวันนั้นคือ Ethereum 2.0”

ปัญหาข้างหน้าที่รออยู่

นาย Vitalik ยังได้กล่าวชี้ให้เห็นถึงจุดที่เขาต้องการจะพัฒนาระบบ platform ของ Ethereum ซึ่งประกอบไปด้วยความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัยของ consensus, ความปลอดภับของ smart contract และความสามารถในการ scaling

สำหรับในสามส่วนแรกนั้น นาย Viltaik ได้ค้นพบวิธีการในการพัฒนาเพื่ออัพเกรดแล้ว โดยในส่วนของความเป็นส่วนตัว การ hard fork ตัว Byzantium ที่ผ่านมาได้มีการนำเอา zk-SNARKs หรือเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน ZCash มาปรับใช้กับ Ethereum ส่วนในด้านของความปลอดภัยของ consensus นั้น ตัวพัฒนาล่าสุดนามว่า ‘Casper’ จะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงส่วนนี้ได้ และในส่วนของความปลอดภัยของ smart contract นั้น จะมีการนำเอา Viper เข้ามาช่วยยืนยันระบบ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านการ scaling นั้นมีความเป็นรูปธรรม นาย Vitalik อธิบายว่าความเป็น decentralized, ความสามารถในการ scaling และความปลอดภัยนั้นถือเป็นสิ่งที่มีความซับซ้อนและยากมาก ซึ่งมันถือเป็นความท้าทายของอนาคตเลยทีเดียว

สำหรับเป้าหมายของการ scaling นั้น เขากล่าวว่า Ethereum จะต้องทำให้ได้มากกว่า 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที และจะต้องอยู่บน on-chain ด้วย และจะต้องมีขึ้นโดยห้ามติดตั้ง supernodes หรือพูดง่ายๆก็คือ พวกเขาจะต้องจัดการปัญหาทั้งสามที่กล่าวมาข้างต้นให้ได้นั่นเอง ซึ่งสำหรับวิธีการแก้ไขนั้น นาย Vitalik ได้ค้นพบวิธีการทำ sharding หรือการทำให้ protocol ของ sidechain สามารถถูกอัพเกรดได้ โดยที่ main chain ยังคงทำงานได้ปกติ

ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนอัลกอริทึมของเหรียญจาก proof of work ให้เป็น proof of stake นั้นก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นด้วย นาย Vitalik ชี้ให้เห็นว่าระยะเวลานั้นอาจจะใช้เวลาถึง 3-5 ปีกว่าจะแก้ไขได้หมด ซึ่งเมื่อเปลี่ยนเป็น PoS หมดแล้ว นักขุดก็จะไม่สามารถขุดเหรียญ Ethereum ได้อีกต่อไป

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น