<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้คนกำลังส่ง Bitcoin ไปให้ Satoshi Nakamoto

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Satoshi Nakamoto นั้นถือเป็นนักถือ Bitcoin (hodler) ต้นฉบับ โดยเขานั้นได้ถือมันไว้ใน address ของเขาและไม่ได้เคลื่อนไหวมันตั้งแต่วันแรกที่มี Bitcoin ขึ้นมาเลย ปัจจุบันการถกเถียงเกี่ยวกับจำนวน Bitcoin ที่เขามีอยู่นั้นยังคงมีอยู่ และเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งนั่นส่งผลทำให้ Satoshi ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งในมหาเศรษฐีพันล้าน และติดอันดับ 50 บุคคลที่รวยที่สุดในโลก แต่นอกจากนั้นก็ยังมีเหตุผลที่ทำให้เขารวยยิ่งขึ้นไปอีก นั่นก็คือการที่มีผู้คนส่ง Bitcoin ให้กับเขานั่นเอง

มหาเศรษฐีผู้รักสันโดษมากที่สุดในโลก

เมื่อปี 2013 มีผู้ที่วิเคราะห์อย่างละเอียดถึงจำนวนตัวเลขของ Bitcoin ที่ซาโตชิมีนั้นน่าจะอยู่ราวๆที่ 1,148,800 BTC หลักฐานดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงจำนวนบล็อกแรกถึง 36,000 บล็อกที่ถูกขุดโดยเครื่องคอมพิวเตอร์แค่เครื่องเดียว ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซาโตชิ ในช่วงเวลานั้น ขนาดรางวัลต่อบล็อกนั้นอยู่ที่ 50 BTC และจำนวน 63% ของรางวัลกว่า 1,814,400 BTC นั้นไม่เคยถูกนำออกมาใช้เลย ทำให้นายซาโตชิน่าจะมี Bitcoin กว่า 1.1 ล้าน BTC

ปัจจุบันบิล เกตส์มีสินทรัพย์มากกว่าซาโตชิถึงสี่เท่า

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันซาโตชิจะมีสินทรัพย์รวมทั้งหมดประมาณ 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่ได้รวมเอา 3.4 พันล้านดอลลาร์จาก Bitcoin Cash, 370 ล้านดอลลาร์จาก Bitcoin Gold เข้าไปด้วย ซึ่งหากรวมทั้งหมดแล้วจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์โดยประมาณ แต่นั่นก็ยังเป็นแค่การสันนิษฐาน เนื่องจากว่าผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเหรียญของซาโตชินั้นไม่เคยถูกเคลื่อนไหวเลยด้วยเหตุผลบางประการ แต่กระนั้น ปัจจุบันเขาได้ถูกจัดให้อยู่บนลิสอันดับที่ 37 ของโลก เหนือผู้ก่อตั้ง Microsoft อย่างนาย Paul Allen แต่ก็ยังน้อยกว่าของนาย George Soros เพียง 5 พันล้านดอลลาร์

ที่น่าสนใจคือ หากราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นไปแตะที่ 60,000 ดอลลาร์นั้น จะทำให้ซาโตชิกลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก เอาชนะ Warren Buffet และ Bill Gates ที่มีสินทรัพย์รวมกว่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ตามลำดับ

เพื่อซาโตชิ

สมมติว่า Satoshi Nakamoto นั้นเป็นผู้ชายที่ยังมีชีวิตอยู่ สิ่งนั้นน่าจะเผยให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่มีความต้องการที่จะแตะต้อง cryptocurrency ของเขาเลยแม้แต่น้อย ด้วยการที่ปัจจุบันเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ก้าวเข้ามาถึงจุดๆนี้แล้ว

address ของ Bitcoin ที่ 1A1zP1eP5QGefi2DMPTfTL5SLmv7DivfNa นั้นเป็น address ที่มีความเกี่ยวข้องกับบล็อกปฐมกาล (block เก็บข้อมูลธุรกรรมแรกสุดของ Bitcoin) มันเป็นบล็อกที่มีจำนวน Bitcoin 50 BTC อยู่ในนั้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2009 ธุรกรรมดังกล่าวถูกมาร์คไว้ว่า “No Inputs (เป็นเหรียญที่ถูกสร้างใหม่)” จำนวน 50 BTC ที่ address นี้ถืออยู่นั้นก็เหมือนๆกับ address อื่นๆที่นายซาโตชิถือ กล่าวคือมันไม่เคยถูกเคลื่อนไหวเลย ดังนั้นใครๆก็คงคาดว่ามันจะยังคงมีตัวเลขอยู่ที่ 50 BTC มาจนถึงปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว address นี้ปัจจุบันมี Bitcoin อยู่ถึง 66.7 BTC ที่มีการส่งเข้ามากว่า 1,140 ธุรกรรม

ไม่ต้องทอน

address อื่นๆที่มีซาโตชิเป็นเจ้าของนั้นก็ยังได้รับบริจาคด้วยเช่นกัน ที่น่าแปลกใจคือจำนวนรางวัล 50 BTC ที่ได้มาในบล็อกปฐมกาลนั้นไม่สามารถถูกเอาออกมาใช้งานได้ เนื่องจากว่าโครงสร้างของโค้ดที่ทำให้บล็อกหมายเลข 0 นั้นไม่สามารถถูกนำเข้าไปใส่ใน blockchain ได้ ซึ่งนั่นยังเป็นปริศนาว่าซาโตชิจงใจทำแบบนี้หรือไม่ ทุกๆครั้งที่มีคนส่ง Bitcoin ไปให้ ซาโตชิ นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังโยนเหรียญเข้าไปในหลุมดำที่เหรียญนั้นจะไม่มีวันได้กลับออกมาถูกใช้งานได้อีก

อีกหนึ่งข้อเท็จจริงก็คือบล็อกปฐมกาลนั้นใช้เวลา 6 วันในการขุด อ้างอิงจากห้องพูดคุย Bitcointalk ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ซาโตชิจงใจทำให้คล้ายๆกับในคัมภีร์ไบเบิล ในบท Genesis 2:2 ที่กล่าวว่า “วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ”

การส่ง Bitcoin ไปสู่ address ที่ไม่สามารถนำออกมาใช้จ่ายได้นั้นอาจดูบ้าคลั่ง แต่ผู้บริจาคเหล่านั้นก็อยากจะทำตัวแตกต่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของจำนวนธุรกรรมที่ถูกส่งเข้าไป หากแต่เป็นเรื่องของสัญลักษณ์การแสดงออก ที่ผู้ใช้งาน Bitcoin อยากจะบอกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” สำหรับนวัตกรรมเปลี่ยนโลกดังกล่าวนี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น