ทางผู้ออกกฎหมายและธนาคารในประเทศอินเดียดูเหมือนว่าจะเริ่มจริงจังในการกดดันวงการ cryptocurrency มากขึ้น อ้างอิงจากตัวเลขของโวลลุ่มการซื้อขาย Bitcoin ในประเทศที่ร่วงลงมาถึง 90% โดยธนาคารกลางแห่งประเทศจีนเริ่มที่จะมีการสั่งปิดบัญชีเว็บกระดานซื้อขายคริปโตในประเทศ และรวมถึงการจำกัดโวลลุ่มในการซื้อขายเหรียญคริปโตของนักลงทุนอีกด้วย
เว็บ Coinsecure สัญชาติอินเดียดูเหมือนว่าจะเสียหายมากที่สุด โดยนาย Mohit Kalra หรือ CEO ของบริษัทดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับ Economic Times ว่าโวลลุ่มการซื้อขาย Bitcoin ของเว็บเขานั้นหายไปจากวันละประมาณ 300-400 BTC เหลือแค่ 30-40 BTC
ทางกรมสรรพากรของอินเดียได้ทำการไล่เก็บภาษีที่คั่งค้างของปี 2017 โดยเริ่มมุ่งเป้าไปที่เว็บเทรดในประเทศกว่า 10 แห่ง และรวมถึงลูกค้าในเว็บเทรดกว่า 100,000 รายที่ทำการซื้อขายเป็นโวลลุ่มขนาดใหญ่อีกด้วย
โดยรายชื่อของธนาคารและสถาบันการเงินที่ทำการปิดบัญชีของเว็บเทรด Bitcoin นั้นประกอบไปด้วย
- State Bank of India
- HDFC Bank
- Kotak Mahindra Bank
- Citibank
- ICCI Bank
นอกจากนี้ธนาคารยังแบนธุรกรรมจากบัตรเครดิตและเดบิตที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขาย Bitcoin และ altcoin อีกด้วย ซึ่งหากลองพิจารณาดูแล้วจะพบว่าความรุนแรงของมาตรการของธนาคารนั้นมากกว่าในประเทศสหรัฐฯ และประเทศไทยอยู่พอสมควร
หลาย ๆ ฝ่ายคาดว่าการกระทำของทางรัฐบาลและธนาคารในลักษณะดังกล่าวไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะนักลงทุนก็จะถูกกดดันให้กลับไปแลกเปลี่ยนและซื้อขายกันเองแบบ P2P ไม่ผ่านธนาคาร ซึ่งอาจทำให้การตรวจสอบในด้าน KYC และ AML หรือการป้องกันการฟอกเงินนั้นเป็นไปด้วยความยากขึ้น
ทางตัวแทนของกลุ่มนักลงทุนและนักเทรดในประเทศอินเดียออกมาประณามการกระทำของรัฐบาลว่า “ทำเกินกว่าเหตุ” โดยที่ไม่มีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบเลยแม้แต่น้อย โดยพวกเขากล่าวว่า “ไม่มีการแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรจากทาง RBI หรือกลุ่มผู้ออกกฎหมายอื่น ๆ “
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น