เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางเว็บผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญ cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Binance (โวลลุ่มการซื้อขาย 1.7 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน) ประกาศว่าจะย้ายฐานที่ตั้งไปยังเกาะ Malta ที่เต็มไปด้วยนักลงทุนและธุรกิจเกี่ยวกับ cryptocurrency และ blockchain
การย้ายดังกล่าวนั้นมีขึ้นหลังจากความขัดแย้งกับนโยบายและกฎหมายด้านการเงินในประเทศญี่ปุ่น
ภายหลังนั้นมีหลักฐานที่เผยให้เห็นว่าทางรัฐบาลของเกาะ Malta ที่เป็นผู้สนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain นั้นได้ช่วยผลักดันและอำนวยความสะดวกให้ทีมงานของ Binance ได้เข้ามาตั้งรกรากในเกาะของพวกเขา โดยคาดหวังว่าจะทำให้เกาะ Malta ได้กลายมาเป็นแนวหน้าด้าน cryptocurrency ของโลก
เกาะแห่ง Blockchain
นาย Silvio Schembri เลขานุการรัฐสภาสำหรับบริการทางการเงินของ Malta ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทีม Binance ว่าทางประเทศ Malta นั้นยังคงมั่นใจที่จะผลักดันให้ตัวเองเป็นเกาะด้าน cryptocurrency ให้ได้ นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่าการเข้ามาปักฐานของ Binance ใน Malta จะทำให้พวกเขาสามารถเติบโตมาเป็นเกาะแห่ง Blockchain ได้
“สิ่งนี้ถือเป็นตัวแสดงความมั่นใจของประเทศเรา และรวมถึงโปรเจคในวงการนี้อีกด้วย โดยหลัก ๆ แล้วนโยบายล่าสุดที่เปิดตัวไปนั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านกฎหมายให้กับบริษัทด้าน DLT ซึ่งตอนนี้มันก็เห็น ๆ กันอยู่แล้วว่า Malta ได้กลายเป็นจุดที่น่าสนใจในสายตาประชาคมโลก และรวมถึงบริษัทอื่น ๆ โดยเฉพาะ Binance ที่จะเข้ามาขยายกิจการและสร้างฐานหลักใน Malta โดยการมาของพวกเขานั้นเป็นการตอกย้ำแนวคิดและมุมมองของเรา ทำให้ Malta นั้นกลายเป็น ‘เกาะแห่ง Blockchain'” กล่าวโดยนาย Schembri
นอกจากนี้ทีมงาน Binance ยังเผยว่ากฎหมายของ Malta ที่อำนวยความสะดวกให้กับบริษัทด้าน blockchain และ cryptocurrency นั้นจะจะช่วยดึงดูดบริษัทในแถบยุโรปให้เข้ามาลงทุนในเกาะนี้มากขึ้น
นาย Changpeng Zhao หรือ CEO ของ Binance กล่าวว่าทางทีมงานได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลิกที่มองการณ์ไกลและมีเหตุผลของนาย Schembri และรวมถึงรัฐบาลของ Malta อีกด้วย
“หลังจากการประชุมกับคุณ Silvio Schembri แล้วนั้น พวกเรารู้สึกประทับใจโดยความมีเหตุผล, การมองการณ์ไกล และความเป็นผู้นำของ Malta และภายหลังจากที่เราทำการตรวจดูร่างดังกล่าวแล้ว เรารู้สึกว่า Malta จะกลายเป็นศูนย์รวมสำหรับบริษัทด้านนวัตกรรม Blockchain ในยุโรปอย่างแน่นอน ทาง Binance ยืนหยัดที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือในด้านความสามารถของเราต่อรัฐบาลในการร่างกฎหมาย และรวมถึงให้เงินลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพด้าน Blockchain เพื่อช่วยให้วงการนี้เติบโตมากยิ่งขึ้น” กล่าวโดยนาย Zhao
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น